เปรียบเทียบประกันรถยนต์

ประกันรถยนต์แต่ละชั้นต่างกันอย่างไร

ประกันรถยนต์ จาก Pocket มีทั้งประกันชั้น 1, 2+ และ 3+ โดยประกันแต่ละชั้นนั้นมอบความคุ้มครองที่แตกต่างกัน เพื่อให้คุณสามารถเลือกระดับความคุ้มครองที่เหมาะกับความต้องการ ในราคาที่คุ้มค่า

ประกันรถยนต์ชั้น 1

ประกันรถยนต์ชั้น 1 จาก Pocket ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งผู้ขับขี่ และความเสียหายที่มีต่อตัวรถ ทั้งในกรณีที่มีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี รวมไปถึงความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ไฟไหม้ และความเสียหายต่อรถยนต์จากการถูกโจรกรรม

ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 1

• คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์
  ประกันรถยนต์ Pocket ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง และสิ่งที่ติดอยู่กับตัวรถยนต์ จำนวนวงเงินคุ้มครอง ตามทุนประกัน
  • กรณีรถยนต์สูญหาย/ไฟไหม้
  • กรณีเสียหายจากภัยธรรมชาติ
  • กรณีชนกับพาหนะทางบก
• ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอก
  ประกันรถยนต์ Pocket ให้ความคุ้มครอง กรณีเกิดอุบัติเหตุรถชนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จำนวนวงเงินคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 1,500,000 บาทต่อคน และสูงสุดไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง รวมทั้งกรณีเกิดอุบัติเหตุรถชนทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย จำนวนวงเงินคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 2,500,000 บาทต่อครั้ง

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จาก Pocket ให้ความคุ้มครองความเสียหายกรณีรถชนกับพาหนะทางบก รถยนต์ไฟไหม้ สูญหาย หรือเสียหายจากภัยธรรมชาติ และค่ารักษาพยาบาล (ไม่คุ้มครองการชนแบบไม่มีคู่กรณี)

ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 2+

• คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์
  • กรณีรถยนต์สูญหาย/ไฟไหม้
  • กรณีถูกโจรกรรม
  • กรณีชนกับพาหนะทางบก
• ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอก
  ประกันรถยนต์ Pocket ให้ความคุ้มครอง กรณีเกิดอุบัติเหตุรถชนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต  จำนวนวงเงินคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาทต่อคน และสูงสุดไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง รวมทั้งกรณีเกิดอุบัติเหตุรถชนทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย จำนวนวงเงินคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาทต่อครั้ง

ทุนประกันภัย	เบี้ยสุทธิ ประกันรถยนต์ชั้น 2+	เบี้ยรวมภาษีและอากรแสตมป์
100,000 บาท	5,492 บาท	5,900 บาท
200,000 บาท	6,423 บาท	6,900 บาท
300,000 บาท	7,353 บาท	7,900 บาท

ประกันรถยนต์ชั้น 3+

ประกันรถยนต์ชั้น 3+ จาก Pocket จ่ายค่าเบี้ยประกันในราคาประหยัด แต่ได้รับความคุ้มครองกรณีรถชนรถ และค่ารักษาพยาบาล (ไม่คุ้มครองการชนแบบไม่มีคู่กรณี)

ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 3+

• คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์
  • กรณีชนกับพาหนะทางบก
• ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอก
  ประกันรถยนต์ Pocket ให้ความคุ้มครอง กรณีเกิดอุบัติเหตุรถชนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จำนวนวงเงินคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาทต่อคน และสูงสุดไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง รวมทั้งกรณีเกิดอุบัติเหตุรถชนทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย จำนวนวงเงินคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาทต่อครั้ง

ทุนประกันภัย	เบี้ยสุทธิ ประกันรถยนต์ชั้น 3+	เบี้ยรวมภาษีและอากรแสตมป์
100,000 บาท	4,560 บาท	4,900 บาท
200,000 บาท	5,492 บาท	5,900 บาท
300,000 บาท	6,423 บาท	6,900 บาท

ขั้นตอนในการซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ กับ Pocket

คุณสามารถเปรียบเทียบประกันรถยนต์ และซื้อประกันรถยนต์ในราคาสุดคุ้มค่ากับ Pocket ได้ง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอน

1. เช็คเบี้ยประกันรถออนไลน์ ได้ทุกที่ ทุกเวลา ที่เว็บไซต์ พ็อกเก็ต ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ได้ข้อมูลเบี้ยประกันรถยนต์อย่างรวดเร็ว หรือโทรหาเราที่ 02-302-7788 ในเวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 09:00-18:00 น. 

2. กรอกข้อมูลรถ เลือกแผนประกันรถยนต์ตามต้องการ โดยกรอกรายละเอียดรถยนต์ของคุณ ได้แก่ 

• ปีที่ผลิต 
• ยี่ห้อรถยนต์ 
• รุ่นรถยนต์ 
• รุ่นย่อยรถยนต์ 
• จังหวัดที่จดทะเบียน 
• เลือกจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ต้องการ พร้อมปรับความคุ้มครองได้ตามใจ 

3. ผู้เชี่ยวชาญจาก Pocket จะติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยเลือกแผนประกันรถยนต์ที่เหมาะสมในราคาที่คุ้มค่าให้กับคุณ

คำถามที่พบบ่อยในการเปรียบเทียบประกันรถยนต์

1. เลือกประกันรถยนต์แบบไหนดี? 

• หลังเปรียบเทียบความคุ้มครองประกันรถยนต์แล้ว คุณสามารถเลือกแผนประกันได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเลือกซื้อประกันรถยนต์ภาคสมัครใจเพียงอย่างเดียว หรือซื้อประกันรถยนต์ภาคสมัครใจพร้อม พ.ร.บ. รถยนต์ (ประกันรถยนต์ภาคบังคับ) เพื่อรับความคุ้มครองอย่างครอบคลุม ทั้งความคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถยนต์ กรณีเสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ตามวงเงินความคุ้มครองที่ระบุในหน้ากรมธรรม์ของรถยนต์ชนิดนั้น ในรูปแบบของเงินชดเชยและค่ารักษาพยาบาลตามที่กฎหมายกำหนด และยังคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถ ชดเชยค่าซ่อมรถของเราไปด้วย เมื่อซื้อพร้อมกัน

2. เมื่อเช็คเบี้ยประกันรถยนต์แล้ว สามารถซื้อประกันรถยนต์ได้ทันทีหรือไม่?

• สามารถซื้อประกันรถยนต์ได้ทันที แต่ต้องได้รับการตรวจสภาพรถยนต์ให้เรียบร้อยก่อน โดยรถยนต์ทุกคันที่จะทำประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ Pocket จะต้องได้รับการตรวจสภาพทุกกรณี โดยมีขั้นตอนการตรวจสภาพรถยนต์ ดังนี้
  • คลิกลิงก์ที่ได้รับทางอีเมล/SMS เพื่อเริ่มขั้นตอนการตรวจสภาพรถยนต์
  • ถ่ายรูปตามคำแนะนำ สำหรับการตรวจสภาพรถยนต์
  • ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบรูปถ่ายทั้งหมด
  • รอรับอีเมลแจ้งผลการตรวจสภาพรถยนต์ได้เลย
    หากตรวจสภาพรถยนต์แล้ว Pocket จึงให้ความคุ้มครองทั้งการเคลมแห้งและการเคลมสด แต่ถ้ายังไม่ได้ตรวจจะคุ้มครองเฉพาะการเคลมสดเท่านั้น

3. มีปัจจัยใดบ้างที่ควรพิจารณาเมื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์?

ในการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ เพื่อให้ได้แผนประกันที่ตอบโจทย์ คุณควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้

• ค่าเบี้ยประกัน สมเหตุสมผล ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม และคุ้มค่า
• แผนความคุ้มครอง สามารถปรับได้ตามความต้องการ ไลฟ์สไตล์ และงบประมาณ
• บริการเสริม เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม.