10 ที่เที่ยวหน้าหนาว 2023 ต้องไปเช็คอิน

ฤดูหนาวมาเยือนทั้งที เก็บกระเป๋าแล้วออกไปเที่ยวกันเถอะ! เราได้รวบรวม 10 ที่เที่ยวหน้าหนาวแห่งปี 2023 ที่ควรค่าแก่การไปเช็คอินมาให้คุณแล้ว

10 ที่เที่ยวหน้าหนาว 2023 ต้องไปเช็คอิน

ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ 
สัมผัสอากาศหนาวแบบฉ่ำใจบนยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทยถึง 2,599 เมตร ที่ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีอากาศหนาวเย็นมากที่สุดตลอดทั้งปี บนดอยอินทนนท์นั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งที่รอให้คุณได้ไปสัมผัสกับวิวสวยๆ พร้อมรับลมหนาว เช่น พระมหาธาตุเจดีย์ดอยอินทนนท์ โครงการหลวง น้ำตกแม่ยะ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน เป็นต้น

ซื้อประกันรถยนต์กับ Pocket คุ้มค่าสุดๆ

ดอยสะโง้ จังหวัดเชียงราย 
ท้าลมหนาวที่ดอยสะโง้ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย สถานที่แห่งนี้เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกสามแผ่นดิน ซึ่งสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ได้ถึงสามประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศเมียนมาร์ รวมไปถึงชุมชนของ 3 อำเภอในประเทศไทยนั่นก็คือ อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่จัน และอำเภอแม่สาย ส่วนที่พักบนดอยมีทั้งแบบโฮมสเตย์ และรีสอร์ท หากคุณมาเที่ยวที่ดอยสะโง้ในเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม นอกจากจะได้สัมผัสทะเลหมอกยามเช้าแล้ว คุณจะได้ชมความงามของทุ่งดอกเก็กฮวยบานสะพรั่งอีกด้วย

ทุ่งแสลงหลวง จังหวัดเพชรบูรณ์
ทุ่งแสลงหลวงเป็นอุทธยานแห่งชาติที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ด้วยภูมิประเทศแบบทุ่งหญ้าสะวันนาบนเนินสูงต่ำ จึงมีความสวยงามเหมือนได้ไปแคมปิงแนวซาฟารีในต่างประเทศ สถานที่แห่งนี้จึงยังเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไปสัมผัสไอหมอกและอากาศเย็นสบายในทุกหน้าหนาว ในอุทยานสามารถปั่นจักรยานเสือภูเขา หรือเช่าจักรยานของทางอุทยานปั่นได้ นอกจากนี้ยังสามารถกางเต็นท์ค้างแรม รวมไปถึงทำกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติ และส่องสัตว์ในยามค่ำคืนกับทางเจ้าหน้าที่ได้

เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
เขาค้อ เป็นชื่ออำเภอหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งอากาศค่อนข้างเย็นตลอดทั้งปี ยิ่งหน้าหนาวอากาศยิ่งเย็นสบาย เขาค้อมีทัศนียภาพสวยงาม เหมาะสำหรับการแคมปิง ชมทะเลหมอก และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ เช่น อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ พิพิธภัณฑ์อาวุธ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีพระบรมธาตุเจดีย์ พระตำหนักเขาค้อ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว และจุดชมวิว กังหันลมเขาค้อ จุดเช็คอินสุดฮิตที่ไม่ไปเหมือนมาไม่ถึง

ภูกระดึง จังหวัดเลย
ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปพิชิตภูกระดึง และแน่นอนว่าหนาวนี้เราไม่อยากให้คุณพลาดเก็บกระเป๋าไปเดินเขาขึ้นภูกระดึงที่จังหวัดเลยด้วยกัน สำหรับการพิชิตภูกระดึงนั้น นอกจากแรงกายแล้วต้องพกแรงใจในการพิชิตภูมาด้วย เพราะระยะทางในการเดินทางขึ้นภูนั้นสูงถึง 5,500 เมตรเลยทีเดียว แต่รับรองได้ว่าความสวยงามของธรรมชาติที่ได้สัมผัสระหว่างทางจะทำให้คุณไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ระหว่างการเดินขึ้นภูจะมีจุดพักเป็นระยะ เมื่อไปถึงด้านบน จะมีทั้งร้านค้า บ้านพักอุทยานและลานกางเต็นท์ให้พักผ่อนท่องเที่ยว สัมผัสลมหนาวกันได้อย่างเต็มอิ่ม โดยบนภูกระดึงนั้นยังมีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่ห้ามพลาด ได้แก่ ผานกแอ่น ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และผาหล่มสัก จุดชมพระอาทิตย์ตกที่ห้ามพลาด

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
แหล่งโอโซนธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ อย่าง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้นครอบคลุมพื้นที่ถึง 4 จังหวัดด้วยกัน ได้แก่ จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครนายก ซึ่งไม่ว่าจะมาเที่ยวฤดูไหนก็สดชื่นด้วยผืนป่าเขียวขจี แต่ถ้ามาหน้าหนาวก็ได้สัมผัสความเย็นสบายท่ามกลางธรรมชาติ จะเลือกไปเช้าเย็นกลับ หรือจะอยู่ค้างคืนก็ดี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นั้นมีกิจกรรมให้คุณได้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติ เล่นน้ำตก ปั่นจักรยาน และต้องไม่พลาดกิจกรรมส่องสัตว์ยามค่ำคืนโดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานเป็นไกด์นำทางและคอยให้ความรู้ อีกทั้งเส้นทางรายรอบเขาใหญ่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งให้แวะเช็คอินก่อนขึ้นอุทยานอีกด้วย เช่น ไร่ทองสมบูรณ์คลับ แหล่งท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์ มีทั้งขี่ม้า ขับโกคาร์ท กระเช้าลอยฟ้า, Toscana Valley ที่พักสไตล์อิตาลีตกแต่งสวยงามเหมือนอยู่ต่างประเทศ, ชมไร่องุ่น และเรียนรู้การทำไวน์ที่ PB Valley และ Scenical World สวนสนุก และสวนน้ำขนาดใหญ่ใจกลางธรรมชาติ เป็นต้น 

สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวยอดฮิตหน้าหนาวใกล้กรุงเทพฯ ที่ต้องไปเช็คอินคืออำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เพราะอุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ ภูเขา และน้ำตก มีฟาร์มแกะ คาเฟ่ รีสอร์ทที่พักให้เลือกพักตามชอบ และยังมีธารน้ำร้อนบ่อคลึง บ่อน้ำแร่ธรรมชาติจากเทือกเขาตะนาวศรีให้แช่น้ำอุ่นคลายหนาวได้ด้วย

เขาช้างเผือก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ กาญจนบุรี
สายแอดเวนเจอร์ต้องไม่พลาดกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติที่เขาช้างเผือก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ด้วยเส้นทางประมาณ 8 กิโลเมตร ที่ความสูงกว่า 1,249 เมตร ต้องใช้ทั้งแรงกาย และแรงใจมากเลยทีเดียว โดยเปิดให้ท่องเที่ยวได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน - เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีเท่านั้น แม้จะน่าหวาดเสียวอยู่สักหน่อย แต่รับรองได้ว่าประทับใจไม่รู้ลืม และเนื่องจากทางอุทยานฯ มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละวันโดยวันละไม่เกิน 60 คน หากอยากไปสัมผัสความท้าทายพร้อมอากาศเย็นๆ อย่าลืมทำการจองล่วงหน้ากับทางอุทยานอย่างน้อย 7 วันก่อนเข้าชม และที่สำคัญที่สุดต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดตลอดการเดินทางเพื่อความปลอดภัย 

เขาพะเนินทุ่ง จังหวัดเพชรบุรี
เพชรบุรีไม่ได้มีดีแค่ทะเล หนาวนี้ไปรับไอหมอกเย็นสบายได้ที่เขาพะเนินทุ่ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานซึ่งเป็นอุทยานที่มีพื้นที่กว้างที่สุดในประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 214 กิโลเมตร โดยเปิดให้เข้าชมทุกปีในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมในปีถัดไป พะเนินทุ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติมากมาย โดยเฉพาะฝูงนกและผีเสื้อกว่า 100 ชนิด ซึ่งมาลงกินดินโป่งในฤดูแล้ง นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น น้ำตกปราณบุรี น้ำตกแม่สะเลียง ถ้ำหัวช้าง ถ้ำเขาปะการัง เขาปะการัง สามารถเข้าไปกางเต็นท์ค้างแรมได้ มีบริการบ้านพัก และจุดกางเต็นท์ให้บริการ

ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จังหวัดยะลา 
ปิดท้ายด้วยทริปลงใต้ที่ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จุดชมทะเลหมอกสุดฮิตที่สามารถชมวิวทะเลหมอกยามเช้าได้ 360 องศา เข้าชมได้ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดจนถึง 9 โมงเช้า เนื่องจากยิ่งสายทะเลหมอกก็จะจางลงจนเหลือแต่ทิวทัศน์ของผืนป่าอุดมสมบูรณ์ โดยความพิเศษของที่นี่คือเราสามารถชมทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปีไม่จำกัดเฉพาะหน้าหนาว นอกจากนั้นยังมี สกายวอร์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวงซึ่งมีพื้นระเบียงเป็นทางเดินกระจกใสยาว 61 เมตร ถือเป็นสกายวอร์คที่ยาวที่สุดในอาเซียนอีกด้วย 

เมื่อตัดสินใจปักหมุดสถานที่ท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเช็คอินกันแล้ว ก็อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง หากสถานที่ท่องเที่ยวของเราเป็นอุทยานแห่งชาติอย่าลืมลงทะเบียนเข้าชมอุทธยานแห่งชาติผ่านแอปพลิเคชัน QueQ ล่วงหน้าไม่เกิน 60 วันก่อนเข้าชม และควรตรวจเช็คสภาพรถยนต์ที่จะใช้สำหรับการเดินทางให้พร้อมก่อนเดินทางไกล โดยตรวจสอบระบบเครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้า ระบบเบรก น้ำมันเครื่อง ยางรถ รวมไปถึงระบบนำทาง GPS ต่างๆ ต่อจากนั้นควรเช็คสภาพอากาศที่จุดหมายปลายทางก่อนจัดกระเป๋า และพกเอกสารสำคัญ เช่น คู่มือประจำตัวรถ ใบขับขี่ เช็คประกันรถยนต์ และเอกสารด้านประกันภัยติดตัวไปด้วย ที่สำคัญที่สุดควรเตรียมร่างกายของตัวเองให้พร้อม แล้วก็ออกเดินทางกันได้เลย

ที่สำคัญที่สุด เพื่อให้เราเดินทางไกลได้อุ่นใจทุกเส้นทาง ต้องไม่ลืมที่จะเช็คประกันรถยนต์ของตนเองด้วยว่ายังอยู่ในระยะคุ้มครองหรือไม่ เพราะการมีประกันรถยนต์จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับเราได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน และควรเลือกทำประกันรถยนต์กับบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองอย่างคุ้มค่า เช่น Pocket by LMG ที่สามารถปรับเลือกแผนประกันได้ตามต้องการ มีอู่และศูนย์ซ่อมที่ได้มาตรฐานมากกว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศ พร้อมบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง หากสนใจสามารถเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ออนไลน์ได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ของ Pocket by LMG Insurance ได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่ www.pocketbylmg.com

รับฟรีโค้ดเติมน้ำมัน

ปรึกษาพร้อมรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพียงฝากข้อมูลของคุณด้านล่าง