เมื่อตัดสินใจทำประกันรถยนต์ แน่นอนว่ามีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ตั้งแต่เงื่อนไขความคุ้มครองไปจนถึงบริการเสริมต่างๆ ว่าตอบโจทย์ความต้องการมากน้อยแค่ไหน และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ การตัดสินใจเลือกระหว่าง “ซ่อมห้าง” (ซ่อมศูนย์) หรือ ”ซ่อมอู่” เมื่อต้องเคลมประกันหลังเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งคนที่ซื้อประกันรถยนต์เป็นครั้งแรกอาจสงสัยว่าความแตกต่างของการซ่อมห้างและซ่อมอู่นั้นมีอะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร
Pocket จะพาไปทำความรู้จักการซ่อมห้างและซ่อมอู่ พร้อมบอกข้อดี-ข้อควรพิจารณาที่ควรรู้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าแบบไหนเหมาะกับตัวเรามากที่สุด
 
ซ่อมห้างคืออะไร?
ซ่อมห้าง คือ การนำรถยนต์เข้าซ่อมที่ศูนย์บริการของแบรนด์รถยนต์นั้นๆ โดยตรง หรือที่หลายคนเรียกว่า “ซ่อมศูนย์” นั่นเอง แน่นอนว่าในการนำรถเข้าซ่อมกับศูนย์บริการ เจ้าของรถมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลจากช่างผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐานของแบรนด์ มีความรู้และคุ้นเคยกับระบบต่างๆ ของรถยนต์ ทั้งยังมีระบบการทำงานที่ได้มาตรฐาน รวมถึงการบริการที่ดี พร้อมใช้อะไหล่แท้จากโรงงานผู้ผลิตโดยตรง
ข้อดีของการซ่อมห้าง
- 
	มาตรฐานและคุณภาพอะไหล่
เจ้าของรถสามารถมั่นใจได้ว่าชิ้นส่วนที่ใช้เปลี่ยนนั้นเป็นของชิ้นใหม่ และเป็นของแท้ 100% จากโรงงานผู้ผลิต ซึ่งตรงกับรุ่นรถยนต์แน่นอน
- 
	ทีมช่างมีความเชี่ยวชาญและดำเนินงานตามมาตรฐาน
ทีมงานประจำศูนย์รถยนต์ล้วนเป็นช่างที่ผ่านการคัดกรองและฝึกอบรม จึงมีความชำนาญเกี่ยวกับรถยนต์ สามารถซ่อมแซมได้ตรงจุด ทำงานได้มาตรฐาน พร้อมมีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัย
- 
	ระบบการทำงานที่เป็นมาตรฐาน
ศูนย์บริการมีขั้นตอนการตรวจสอบและซ่อมแซมที่เป็นขั้นตอน ชัดเจน และสามารถตรวจสอบได้ จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาดระหว่างซ่อมบำรุงรถยนต์ ในกรณีเกิดข้อผิดพลาด เจ้าของรถยังสามารถตรวจสอบหรือยื่นหนังสือไปยังบริษัทผลิตรถยนต์ได้
- 
	การรับประกันงานซ่อม
โดยปกติ ศูนย์บริการมีการรับประกันงานซ่อม หากรถยนต์หรือจุดที่ซ่อมแซมเกิดปัญหาในภายหลัง เจ้าของรถสามารถนำกลับมาแก้ไขได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ข้อควรพิจารณาของการซ่อมห้าง
- 
	ระยะเวลาในการซ่อมแซมที่นาน
เนื่องจากศูนย์รถยนต์กำหนดขั้นตอนการทำงานที่เป็นระบบ ในกรณีที่มีรถส่งซ่อมจำนวนมาก หรือมีคิวซ่อมก่อนหน้า ทางศูนย์อาจใช้เวลาในการสั่งอะไหล่ ซ่อมแซม และส่งมอบรถนานกว่าเมื่อเทียบกับการซ่อมอู่ ซึ่งอาจใช้เวลานานหลายวันหรือหลายสัปดาห์
- 
	ศูนย์บริการมีจำกัด
ในบางพื้นที่หรือต่างจังหวัดอาจไม่มีศูนย์บริการใกล้เคียง เจ้าของรถจึงอาจต้องส่งรถไปซ่อมยังศูนย์ที่อยู่ห่างไกล ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายด้านการขนส่ง รวมถึงใช้ระยะเวลานานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
- 
	ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ค่าเบี้ยประกันรถยนต์สำหรับการส่งซ่อมห้างมักสูงกว่าการซ่อมอู่ ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือประกันประเภทอื่นๆ ก็ตาม นอกจากนี้ การซ่อมแซมบางรายการอาจมีค่าส่วนต่างเพิ่มเติมนอกเหนือจากความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัย
ซ่อมอู่คืออะไร?
ซ่อมอู่ คือการนำรถเข้าซ่อมที่อู่ซ่อมรถทั่วไป อาจเป็นอู่ซ่อมรถที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้บ้านหรือที่ทำงาน ดังนั้นมาตรฐานและคุณภาพในการซ่อมแซมจะแตกต่างกันไป โดยการซ่อมอู่จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อย คือ อู่ในเครือประกัน และ อู่นอกเครือประกัน ซึ่งมีข้อแตกต่างดังนี้
1. อู่ในเครือบริษัทประกันภัย
อู่ซ่อมรถที่มีการทำสัญญากับบริษัทประกันภัย ซึ่งผ่านตรวจสอบและการรับรองมาตรฐานจากบริษัทประกันรถยนต์ ดังนั้นผู้เอาประกันจึงไว้วางใจได้ โดยสามารถนำรถเข้าซ่อมได้ทันทีโดยไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้า หากอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของกรมธรรม์ หรือเป็นการซ่อมแซมตามที่ตัวแทนบริษัทประกันภัยประเมินไว้ล่วงหน้า
นอกจากนี้ บริษัทประกันรถยนต์ส่วนใหญ่ยังมีอู่คู่สัญญาในหลายพื้นที่ ครอบคลุมทั่วประเทศ จึงสามารถเข้าใช้บริการอู่ที่ตอบโจทย์ความต้องการ เช่น อู่ซ่อมรถใกล้บ้าน หรืออู่ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เป็นต้น
2. อู่นอกเครือบริษัทประกันภัย
อู่ซ่อมรถธรรมดาที่พบเห็นทั่วไป ไม่ได้มีการรับรองมาตรฐานจากบริษัทประกัน ดังนั้นจึงอาจมีความเสี่ยงในการเข้าใช้บริการ หากไม่ได้ศึกษาข้อมูลของอู่นั้นๆ ให้ถี่ถ้วน หากต้องการใช้บริการอาจต้องสำรองจ่ายล่วงหน้า แล้วนำใบเสร็จไปเบิกค่าทดแทนจากบริษัทประกันภัย อย่างไรก็ตาม อู่ซ่อมรถเหล่านี้มักไม่มีการรับประกันการซ่อมแซม หากเกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง บริษัทประกันภัยจะไม่สามารถให้ความคุ้มครอง เนื่องจากไม่ได้มีสัญญาต่อกัน
พูดได้ว่า การใช้บริการซ่อมอู่ในลักษณะนี้เหมาะกับผู้ที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับรถอยู่บ้าง พร้อมต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์และความน่าเชื่อถือของอู่ซ่อม เพื่อลดความเสี่ยงในการใช้บริการ
ข้อดีของการซ่อมอู่
- 
	ค่าเบี้ยประกันถูกกว่า
ค่าเบี้ยประกันรถยนต์จะถูกกว่าเมื่อเทียบกับการซ่อมห้าง อีกทั้งยังสามารถต่อรองราคาในการซ่อมกับอู่ได้ จึงตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการประหยัดงบประมาณ
- 
	ระยะเวลาการซ่อมรวดเร็ว
อู่ซ่อมโดยทั่วไปเปิดบริการให้สามารถเข้าซ่อมรถได้ทันที สามารถพูดคุยและเจรจาตกลงเรื่องระยะเวลากันได้ง่ายกว่า ในหลายกรณี อาจได้คิวซ่อมที่รวดเร็วกว่าซ่อมห้าง หากมีอะไหล่พร้อม
- 
	สามารถเลือกคุณภาพของอะไหล่ได้
เจ้าของรถสามารถเจรจาและเลือกชิ้นส่วนอะไหล่ที่ต้องการใช้ซ่อมแซมได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อ เกรด หรือวัสดุ สามารถเปลี่ยนอะไหล่ที่เป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ได้ทุกประการ ทั้งนี้ควรมีความรู้หรือศึกษาเกี่ยวกับอะไหล่มาเบื้องต้น
- 
	มีตัวเลือกอู่ซ่อมครอบคลุมหลายพื้นที่
อู่ซ่อมมีทั่วไปทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด จึงสะดวกต่อการเข้าถึงและส่งซ่อม
ข้อเสียของการซ่อมอู่
- 
	มาตรฐานการซ่อมที่แตกต่างกัน
มาตรฐานและความเชี่ยวชาญของทีมช่างอาจอยู่นอกเหนือการดูแลของบริษัทประกันภัย (โดยเฉพาะอู่นอกเครือ) คุณภาพของผลงานจึงมักขึ้นอยู่กับฝีมือและความซื่อสัตย์ของแต่ละอู่แต่ละแห่ง ซึ่งอาจเทียบเท่าหรือด้อยกว่าการซ่อมห้าง
- 
	ควบคุมคุณภาพของอะไหล่ได้ยาก
แม้สามารถเลือกชิ้นส่วนอะไหล่ที่ต้องการได้ แต่ก็อาจไม่สามารถควบคุมมาตรฐานของอะไหล่ที่ใช้สำหรับซ่อมแซม ไม่สามารถควบคุมคุณภาพได้ และบางครั้งอาจไม่ใช่อะไหล่แท้ หรืออาจถูกสลับเปลี่ยนอะไหล่คุณภาพต่ำมาให้ซ่อมแซม แต่สำหรับอู่ในเครือบริษัทประกันภัย ทางบริษัทประกันจะสามารถเข้าตรวจสอบและรับรองคุณภาพชิ้นส่วนอะไหล่ได้ ซึ่งต่างจากอู่นอกเครือที่เจ้าของรถจำเป็นต้องตรวจสอบเอง
- 
	อู่บางแห่งอาจไม่รับประกันงานซ่อม
อู่ซ่อมบางแห่ง (นอกเครือประกันภัย) อาจไม่รับผิดชอบผลงานซ่อมแซมหากเกิดปัญหาในภายหลัง ในบางครั้งอาจเป็นงานซ่อมที่ไม่สมบูรณ์ หรือส่งผลให้ส่วนอื่นๆ ของรถยนต์เสียหาย
เปรียบเทียบซ่อมห้าง vs. ซ่อมอู่
| ข้อเปรียบเทียบ | ซ่อมห้าง (ซ่อมศูนย์) | ซ่อมอู่ในเครือ | ซ่อมอู่นอกเครือ | 
| คุณภาพอะไหล่ | อะไหล่แท้ 100% จากโรงงาน | อะไหล่เทียบหรือแท้ตามมาตรฐานประกัน | อะไหล่เทียบ/มือสอง ตามตกลง | 
| มาตรฐานการซ่อมแซม | สูงสุด ได้มาตรฐานผู้ผลิต | ดี ผ่านการรับรองจากประกัน | แตกต่างกันตามแต่ละอู่ | 
| การรับประกัน | มีการรับประกันชัดเจน | มีรับประกันตามเงื่อนไข | อาจมีหรือไม่มีการรับประกัน | 
| ค่าเบี้ยประกัน | สูงกว่าประเภทอื่น | ปานกลาง ต่ำกว่าซ่อมห้าง | ต่ำกว่าซ่อมห้าง | 
| ความครอบคลุมพื้นที่ | ไม่ต้องสำรองจ่าย | ไม่ต้องสำรองจ่าย | ต้องสำรองจ่าย | 
ปัจจัยควรพิจารณาในการตัดสินใจซ่อมห้าง-ซ่อมอู่
การเลือกรูปแบบการซ่อมที่เหมาะสมไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาจากหลายมิติประกอบกัน ทั้งไลฟ์สไตล์ งบประมาณ ประสบการณ์ และความต้องการส่วนบุคคล มาดูกันว่าซ่อมห้างและซ่อมอู่เหมาะกับใครบ้าง
ซ่อมห้างเหมาะกับใคร
1. เจ้าของรถใหม่ป้ายแดง
สำหรับผู้ที่เพิ่งซื้อรถใหม่หรือมีรถอายุไม่เกิน 3 ปี แนะนำให้เลือกซ่อมห้าง (ศูนย์) เป็นหลัก เพราะรถใหม่ยังอยู่ในช่วงรับประกันจากผู้ผลิต การซ่อมที่ศูนย์จะช่วยรักษาเงื่อนไขการรับประกันให้คงอยู่ อีกทั้งยังศูนย์บริการมักมีอะไหล่แท้สำหรับรถรุ่นใหม่เตรียมพร้อมอยู่เสมอ ไม่ต้องรอสั่งอะไหล่นานหลายเดือน ที่สำคัญคือช่วยรักษามูลค่าของรถเมื่อต้องการขายต่อในอนาคต เพราะมีประวัติการซ่อมที่ศูนย์อย่างเป็นทางการ สร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อต่อ
2. ผู้ขับขี่มือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ดูแลรถยนต์
มือใหม่ที่เพิ่งมีรถคันแรกหรือมีประสบการณ์การดูแลรถน้อย การเลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 แบบซ่อมห้างจะช่วยลดความกังวลได้เป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องตัดสินใจเรื่องการเลือกอะไหล่ ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกเอาเปรียบ และมั่นใจได้ว่าจะได้รับการซ่อมที่ได้มาตรฐาน มีการรับประกันงานซ่อมชัดเจน หากมีปัญหาสามารถกลับมาแก้ไขได้
3. ผู้ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพงานซ่อม
บางคนมีความใส่ใจในเรื่องคุณภาพงานซ่อมหรือต้องการให้รถกลับมาเหมือนเดิมมากที่สุด จะเหมาะกับการซ่อมห้างที่สุด เพราะมีมาตรฐานการทำสีตรงตามโรงงาน การประกอบชิ้นส่วนตามสเปคที่กำหนด มีการตรวจสอบคุณภาพหลายขั้นตอนก่อนส่งมอบ
4. ผู้ที่ไม่มีเวลาติดตามงานซ่อม
คนทำงานที่ไม่มีเวลาว่างหรือผู้บริหารที่ต้องการความสะดวก การซ่อมห้างตอบโจทย์ได้ดี เพราะมีระบบจัดการที่เป็นมืออาชีพ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลสถานะการซ่อม บางศูนย์มีบริการรถรับส่งหรือให้บริการรถทดแทนขณะซ่อม ไม่ต้องเสียเวลาติดตามงาน มั่นใจได้ว่างานจะเสร็จตามกำหนดและมีคุณภาพ
5. ผู้ที่วางแผนใช้งานรถระยะยาว
หากคิดจะใช้รถคันเดิมนานๆ ไม่คิดเปลี่ยนบ่อย การลงทุนกับการซ่อมห้างคุ้มค่าในระยะยาวก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะการใช้อะไหล่แท้และการซ่อมที่ได้มาตรฐานจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถ ลดปัญหาที่อาจเกิดจากการซ่อมไม่ได้มาตรฐาน และช่วยรักษาสมรรถนะของรถให้ดีตลอดอายุการใช้งาน
ซ่อมอู่เหมาะกับใคร
1. เจ้าของรถเก่าหรือรถมือสองอายุเกิน 5 ปี
สำหรับรถที่มีอายุมาก การหาอะไหล่แท้อาจเป็นเรื่องท้าทายหรือใช้เวลานาน ซึ่งสามารถเลือกใช้อะไหล่จากอู่ได้ อีกทั้งการเลือกซ่อมอู่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก โดยเฉพาะรถที่หมดประกันจากศูนย์รถยนต์แล้ว หรือรถที่ศูนย์ไม่รับซ่อมเพราะอายุมากเกินไป อู่จะมีทางเลือกอะไหล่เทียบหรือมือสองคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสม ทำให้ยังคงใช้รถต่อได้โดยไม่ต้องลงทุนจำนวนมาก
2. ผู้ที่มีงบประมาณจำกัด
สำหรับคนที่ต้องการความคุ้มครองจากประกันรถยนต์แต่มีงบประมาณจำกัด การเลือกประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือประกันรถยนต์ชั้น 3+ แบบซ่อมอู่ก็ถือเป็นทางออกที่ดี ซึ่งจะได้ความคุ้มครองที่จำเป็นในราคาที่จ่ายได้ โดยเฉพาะอู่ในเครือประกันที่มีมาตรฐานการซ่อมที่น่าเชื่อถือ
3. ผู้ที่ใช้รถในพื้นที่ต่างจังหวัด
คนที่อยู่ต่างจังหวัดหรือพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีศูนย์บริการใกล้บ้าน การเลือกซ่อมอู่จะมอบความสะดวกมากกว่าซ่อมห้าง เพราะอู่มีอยู่ทั่วไปในทุกพื้นที่ ไม่ต้องเดินทางไกลเพื่อไปซ่อม ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
4. เจ้าของรถที่ต้องการความรวดเร็ว
ผู้ที่ใช้รถในการประกอบอาชีพ เช่น ขับแท็กซี่ หรือต้องขับรถไปทำงานทุกวัน ไม่สามารถรอคิวซ่อมนานได้ การซ่อมอู่ตอบโจทย์ได้ดีเพราะสามารถเข้าซ่อมได้ทันที ใช้เวลาซ่อมสั้น บางอู่ยังรับซ่อมด่วนหรือซ่อมนอกเวลาได้ ทำให้กลับมาใช้รถได้เร็ว ไม่กระทบกับการทำงาน
5. ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการซ่อม
บางคนชอบมีทางเลือกในการซ่อม อยากเลือกเกรดอะไหล่เอง ต้องการซ่อมเฉพาะจุดที่จำเป็น หรืออยากแบ่งซ่อมเป็นงวดๆ ตามงบที่มี การซ่อมอู่ให้ความยืดหยุ่นสูง สามารถปรึกษากับช่างโดยตรง เลือกแนวทางซ่อมที่เหมาะกับงบประมาณ
การเลือกระหว่างซ่อมห้างและซ่อมอู่ขึ้นอยู่กับความต้องการ งบประมาณ อายุรถ และสถานการณ์ของแต่ละคน สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาคุณภาพ ความสะดวก และค่าใช้จ่าย เพื่อหาจุดที่สมดุลและเหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเอง เพื่อให้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
ที่สำคัญคือต้องเลือกประกันรถยนต์ที่มีทั้งคุณภาพและความคุ้มค่า ไม่ว่าจะเลือกซ่อมแบบไหน ควรเลือกบริษัทประกันที่มีเครือข่ายอู่และศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน มีบริการที่ดีครอบคลุม และให้ความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด การทำความเข้าใจความแตกต่างและความเหมาะสมของแต่ละแบบจะช่วยให้เลือกซื้อประกันรถยนต์ที่ใช่
หากคุณกำลังมองหาประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองครบครันในราคาที่คุ้มค่า Pocket by LMG ขอนำเสนอแผนประกันรถยนต์ออนไลน์ในราคาดีที่ซื้อง่ายและรวดเร็ว ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3+ เรายินดีให้คำปรึกษาและแนะนำแผนประกันที่เหมาะสม เพื่อให้การใช้รถใช้ถนนเป็นไปอย่างอุ่นใจ สามารถดูแผนประกันรถยนต์ออนไลน์ พร้อมเปรียบเทียบประกันรถยนต์ และเช็คเบี้ยได้ง่ายๆ ที่ www.pocketbylmg.com หรือโทร. 02-302-7788 เพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ พร้อมรับแผนประกันที่ตอบโจทย์ในราคาที่คุ้มค่า