สำหรับขั้นตอนการเคลมประกันภัยรถยนต์จะมีค่าเสียหายส่วนแรก ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ ค่าเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ (Deductible) และค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ (Excess) การทำความเข้าใจค่าเสียหายส่วนแรกเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าเราเลือกทำได้ตรงกับการขับขี่ของตัวเอง ก็สามารถช่วยลดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์รายปีได้
ค่าเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ (Deductible) คืออะไร
Deductible คือ จำนวนเงินที่ระบุไว้ชัดเจนในกรมธรรม์ว่าผู้ใช้รถจะต้องรับผิดชอบหากมีการเคลม กรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วตนเป็นฝ่ายผิดหรือไม่สามารถแจ้งคู่กรณีได้ เช่น หากซื้อประกันภัยรถยนต์แบบมี Deductible 5,000 บาท และต่อมาเกิดอุบัติเหตุ โดยที่เราเป็นฝ่ายผิด และบริษัทฯ ประเมินค่าเสียหายออกมาเป็นจำนวน 10,000 บาท เราจะต้องจ่าย “ค่าเสียหานส่วนแรกจำนวน 5,000 บาท” ส่วนที่เหลือ อีก 5,000 บาท บริษัทฯ ประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยในขั้นตอนการทำประกันภัยรถยนต์ จะมีเงื่อนไขให้เราสามารถเลือกที่จะจ่ายหรือไม่จ่ายค่า Deductible ได้ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 1,000 ถึง 5,000 บาท ยิ่งเราเลือกที่จะชำระค่าเสียหายส่วนแรกสูง ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ก็จะยิ่งลดลง
เมื่อเลือกทำประกันภัยรถยนต์ ควรเลือกจ่ายน้อย หรือจ่ายมาก แบบไหนคุ้มกว่ากัน
คำตอบคือขึ้นอยู่กับความชำนาญในการขับรถ หากเป็นมือใหม่หัดขับหรือคาดว่ามีแนวโน้มจะเกิดอุบัติเหตุชนค่อนข้างบ่อย แนะนำให้เลือกจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกน้อยหรือไม่จ่ายจะดีที่สุด แต่หากเป็นผู้ขับขี่ที่ระมัดระวังเป็นอย่างดี และไม่ค่อยเคลมหรือชน แนะนำให้เลือกชำระค่าเสียหายส่วนแรกมากสักหน่อยเพราะจะช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ในแต่ละปีไปได้มาก
ค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ (Excess) คืออะไร
Excess คือ จำนวนเงินที่ผู้ใช้รถต้องรับผิดชอบเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ส่วนใหญ่เริ่มที่จุดละ 1,000 บาท (แม้จะมีประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็ต้องจ่าย)
กรณีที่ต้องเสียค่า Excess ได้แก่ กรณีที่เกิดจากการชนหรือคว่ำ แบบที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ หรือไม่ได้เกิดจากการชนโดยตรงมีความเสียหายเพียงพื้นผิวของสีรถ ซึ่งได้แก่
- มีรอยขีดข่วน หรือถูกกลั่นแกล้ง
- หินหรือวัสดุใดๆ กระเด็นใส่
- เฉี่ยวกิ่งไม้/สายไฟฟ้า/ลวดหนาม
- รถตกหลุม/ครูดกับพื้นถนน
- รถถูกละอองสีหรือวัสดุใดๆ หล่นมาโดน
- ไถลตกข้างทาง แต่ไม่พลิกคว่ำ
- ถูกวัสดุในตัวรถกระแทกหรือกรีดโดน
- รถถูกสัตว์กัดแทะหรือขีดข่วน
- กรณีอื่นๆ ที่แจ้งสาเหตุไม่ชัดเจน
ซึ่งการจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี แต่ก็มีอุบัติเหตุบางประเภทที่ได้รับการยกเว้นค่า Excess เช่น รถชนเสาไฟ/ประตู ชนกำแพง ชนต้นไม้ ชนฟุตบาท ชนป้ายจราจร หรือพลิกคว่ำ เป็นต้น
*โปรดตรวจสอบเงื่อนไขและรายละเอียดความคุ้มครองทั้งหมดในกรมธรรม์เพื่อประโยชน์สูงสุดของคุณ
นอกจากการทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าเสียหายส่วนแรกก่อนซื้อประกันภัยรถยนต์แล้ว อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการขับขี่อย่างระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ทั้งนี้ คุณสามารถเลือกให้ Pocket ดูแลเรื่องประกันภัยรถยนต์ของคุณ เพื่อช่วยให้อุ่นใจมากยิ่งขึ้นตลอดการเดินทาง