เทคนิคไม่ลับ! ขับรถปลอดภัย ไกลอุบัติเหตุ ในวันฝนตก

เข้าช่วงหน้าฝนทีไร ก็อาจจะทำให้หลายคนเกิดความกังวลใจในการขับรถขึ้นมา เพราะสภาพอากาศเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ยาก และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นคุณจำเป็นต้องรู้ก่อนว่า โอกาสในการเกิดอุบัติเหตุขณะขับรถในวันฝนตกเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งทัศนวิสัยที่ไม่ชัดเจน ผิวถนนมีความลื่นมากกว่าปกติ รวมถึงการมีสิ่งกีดขวางบนถนน เช่น เศษกิ่งไม้ หรือแม้กระทั่งแอ่งน้ำ หลุม บ่อ ที่ควรต้องหลีกเลี่ยง

ถึงแม้ว่าเราจะควบคุมสภาพอากาศไม่ได้ แต่ก็สามารถรับมือและลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุในวันที่ฝนตกถนนลื่นได้ มาดูเทคนิคดีๆ ในการขับรถตอนฝนตกที่เรานำมาฝากกัน

เทคนิคไม่ลับ! ขับรถปลอดภัย ไกลอุบัติเหตุ ในวันฝนตก

เช็คก่อนให้ชัวร์! ตรวจสอบสภาพรถ และอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินก่อนเดินทาง

เมื่อต้องขับรถในวันที่ฝนกระหน่ำ สภาพอากาศไม่เป็นใจ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ สิ่งที่ควรตรวจสอบให้มั่นใจก่อนออกเดินทาง หลักๆ มี 2 ส่วน คือ

  1. เช็คสภาพของรถยนต์ จุดสำคัญที่ควรตรวจเช็คก่อนใช้งานพื้นฐาน เช่น พวงมาลัย แบตเตอรี่ ช่วงล่าง และมอเตอร์รถยนต์ ฯลฯ ควรเช็คให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน ระบบการทำงานยังดีหรือไม่ โดยเฉพาะระบบเบรก ยางรถยนต์ และระบบไฟ ยิ่งต้องตรวจสอบเป็นพิเศษ เพราะปริมาณลมยาง ความลึกของดอกยางที่เหมาะสม ไฟที่ส่องสว่างทุกจุดรอบรถ และใบปัดน้ำฝนที่พร้อมใช้งาน จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเมื่อฝนตกถนนลื่นได้
  2. เช็คอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิน อีกส่วนสำคัญที่ควรเช็คก่อนขับรถเมื่อฝนตก คืออุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินที่ต้องไม่ลืมติดรถเอาไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันเครื่องสำรองอย่างน้อย 1 ลิตร ยางอะไหล่ ที่สูบลม ไฟฉาย ชุดและป้ายสัญญาณขอความช่วยเหลือ น้ำสะอาด และชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด จะได้ดูแลตัวเองเบื้องต้นได้

ซื้อประกันรถยนต์กับ Pocket คุ้มค่าสุดๆ

ปลอดภัยกว่า! ควรขับรถอย่างไร? ในวันฝนตก สภาพอากาศเลวร้าย

นอกจากการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ และอุปกรณ์ช่วยเหลือยามจำเป็นแล้ว ในวันที่ฝนตกถนนลื่น ผู้ขับขี่ควรเรียนรู้เทคนิคในการขับรถให้ปลอดภัยตามด้านล่างนี้เลย

  1. ลดความเร็วลง เพื่อไม่ให้รถเสียการทรงตัว เมื่อต้องขับรถช่วงฝนตก สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ ขับให้ช้าลง และควรใช้ความเร็วในระดับที่เหมาะสมกับสภาพถนนเปียกลื่น และห้ามแซง ห้ามเร่งเครื่องอย่างเด็ดขาด เพื่อประคองไม่ให้รถเสียการทรงตัว
  2. เว้นระยะห่างจากรถคันข้างหน้าให้มาก เพื่อให้มีระยะที่เพียงพอ หากต้องเบรกรถกะทันหัน โดยแนะนำให้เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าประมาณ 10 - 15 เมตร และไม่ขับรถตามหลังรถบรรทุกหรือรถโดยสารขนาดใหญ่ เพราะรถเหล่านี้มักจะปัดละอองน้ำมาโดนรถคันข้างหลัง จนทำให้มองเห็นทางไม่ชัดเจน
  3. อย่าเหยียบเบรกกะทันหันหากรถลื่นไถล เมื่อรถเกิดเสียหลัก ให้คุณพยายามใช้เกียร์ต่ำขับรถ และค่อยๆ เบรก เพื่อชะลอความเร็ว เพราะหากเหยียบเบรกกะทันหัน จะยิ่งทำให้รถกระชาก และลื่นไถลกว่าเดิมได้ 
  4. ปรับความหน่วงของใบปัดน้ำฝนให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ กรณีที่ขับรถในวันฝนตก อีกหนึ่งเรื่องที่ช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้ ก็คือ ต้องปรับระดับความเร็วของใบปัดน้ำฝนให้สัมพันธ์กับปริมาณความแรงของฝน เพื่อให้ใบปัดน้ำฝนทำงานได้อย่างเต็มที่ และอย่าลืมเช็คสภาพของใบปัดน้ำฝนด้วยทุกครั้ง หากเริ่มมีเสียงหรือฝืดเคือง นั่นแปลว่าถึงเวลาเปลี่ยนก้านปัดน้ำฝนแล้ว
  5. เปิดไฟหน้า - ไฟท้ายรถอยู่เสมอ นอกจากการเปิดไฟหน้าและไฟท้ายจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยของผู้ขับได้ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นรถของคุณได้ชัดเจน และทราบสัญญาณการเลี้ยวจากระยะไกลได้อีกด้วย
  6. เปิดไฟตัดหมอก เมื่อเวลาจำเป็นเท่านั้น ต่อเนื่องจากการเปิดไฟส่องสว่าง หากขับรถขณะฝนตก แนะนำให้เปิดใช้ไฟตัดหมอกหน้า - หลัง เฉพาะช่วงเวลาที่ฝนตกหนักมากๆ เท่านั้น และจะต้องปิดทันที เมื่อฝนเบาลง ซึ่งนอกจากไฟตัดหมอกแล้ว ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินหรือไฟกะพริบเช่นเดียวกัน เพราะอาจทำให้รถคันอื่นสับสนกับสัญญาณการขับขี่ได้
  7. มีสติอยู่ตลอดเวลา และอย่าฝืนหากขับต่อไม่ไหว นอกจาก 6 ข้อที่บอกไปแล้ว อีกวิธีที่ขาดไม่ได้หากต้องขับรถในวันที่ฝนตกถนนลื่น ก็คือการขับรถด้วยความระมัดระวัง มีสติในการขับอยู่ตลอดเวลา โดยอาจเตรียมตัวตั้งแต่ก่อนเดินทาง อย่างการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการทานยาที่ทำให้ง่วงนอน และที่สำคัญคือ หากฝนตกหนักจนสภาพอากาศเลวร้าย ควรหยุดพักรถทันที โดยอาจจอดพักข้างทาง หรือแวะจอดที่จุดพักรถใกล้ๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากที่สุด

รับมือได้! กรณีเกิดอุบัติเหตุขณะฝนตก ทำอย่างไรได้บ้าง

รู้กันแล้วว่าเมื่อต้องขับรถในวันฝนตก ต้องทำอะไรบ้าง แล้วถ้าในกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุในวันฝนตก จะต้องทำอย่างไร Pocket by LMG รวบรวมคำตอบมาให้คุณแล้วเช่นเดียวกัน

  1. หยุดรถและขับไปจอดในที่ปลอดภัย กรณีรถเกิดอุบัติเหตุ ก่อนอื่นให้หยุดรถ และขับรถไปในที่ปลอดภัยถ้าสามารถทำได้ เช่น หลบเข้าข้างทาง เพื่อเลี่ยงการชนกับรถคันอื่นๆ 
  2. เปิดไฟสัญญาณเตือน และสวมเสื้อที่มีสีสันหรือเครื่องหมายที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้ขับรถท่านอื่นสังเกตเห็นคุณได้ง่ายขึ้น
  3. ติดต่อหน่วยงานฉุกเฉิน เช่น เบอร์กลางของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 หรือเบอร์สายด่วนฉุกเฉินในพื้นที่นั้นๆ เจ้าหน้าที่จะได้เข้าช่วยเหลือได้ทันที 
  4. รอผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเหลือ แนะนำให้รอเจ้าหน้าที่ที่มีทักษะทางการแพทย์เข้ามาดูแล และหลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่มากกว่าเดิม
  5. ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อให้คุณดูแลตัวเองและผู้บาดเจ็บได้อย่างถูกต้อง และจะได้เร่งมือเคลียร์สถานที่ รวมทั้งเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาลได้รวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย

จะเห็นได้ว่า วิธีเตรียมความพร้อมและเทคนิคในการขับรถเมื่อฝนตกถนนลื่นนั้น ไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด เพราะฉะนั้นหากต้องขับรถในช่วงฝนตก ก็ลองนำวิธีข้างต้นไปปรับใช้กันดู

แต่อย่างไรก็ตาม การมีประกันรถยนต์ที่คุณไว้ใจได้ ก็เป็นอีกทางเลือกที่สามารถช่วยคุณได้หากเกิดกรณีฉุกเฉิน ให้ประกันรถยนต์ Pocket by LMG ได้ช่วยคุณเสริมความอุ่นใจในทุกสภาวะการเดินทาง เพราะประกันรถยนต์ของเราคุ้มครองครอบคลุมหลายกรณี มีแผนประกันให้คุณเลือกได้ตรงความต้องการ แถมยังซื้อได้ง่าย และเช็คค่าเบี้ยได้ฟรี 

หากคุณสนใจซื้อประกันรถยนต์ สามารถเช็คค่าเบี้ยประกันรถยนต์ผ่านทางออนไลน์ได้ที่ www.pocketbylmg.com ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง

รับฟรีโค้ดเติมน้ำมัน

ปรึกษาพร้อมรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพียงฝากข้อมูลของคุณด้านล่าง