เป็นเจ้าของรถกระบะมือสอง ประกันแบบไหนที่ใช่ เลือกอย่างไรดี?

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการซื้อรถกระบะมือสอง ด้วยเหตุผลที่ว่า ตอบโจทย์การใช้งานหลายรูปแบบ สามารถบรรจุของได้เยอะ บางคันติดตั้งฝาปิดกระบะ โรลบาร์ หรือ อุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่ช่วยให้สะดวกต่อการใช้งานและเพิ่มพื้นที่การบรรทุกของได้มากขึ้น ที่สำคัญราคายังถูกกว่ามือหนึ่งค่อนข้างมาก ดังนั้น การซื้อรถกระบะมือสองจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

หากใครกำลังวางแผนที่จะถอยรถกระบะมือสองสักคันออกมาใช้งาน แต่ยังลังเลว่าควรเลือกอย่างไรดี แล้วถ้าจะซื้อประกันรถยนต์เพื่อคุ้มครองรถด้วย ประกันแบบไหนถึงจะคุ้มครองได้ตรงใจมากที่สุด Pocket by LMG ขออาสานำเอาข้อมูลดีๆ มาฝากกัน

เป็นเจ้าของรถกระบะมือสอง ประกันแบบไหนที่ใช่ เลือกอย่างไรดี

เช็คให้ดีก่อนซื้อ เตรียมตัวและเช็คให้ครบ 6 ข้อ ก่อนตัดสินใจซื้อรถกระบะมือสอง

  1. หาข้อมูลและกำหนดงบประมาณ
    อันดับแรก ให้ศึกษาและเปรียบเทียบรุ่นของรถกระบะมือสอง ว่ารุ่นใดบ้างที่ตลาดแนะนำ หรือให้ความนิยม ไม่ว่าจะด้วยคุณภาพ ประโยชน์ด้านการใช้งาน หรือเหตุผลด้านอื่นๆ  โดยอาจจะหารีวิวที่เชื่อถือได้อีกช่องทางหนึ่ง เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ จะได้ทราบว่า ข้อดี ข้อควรระวังของแต่ละรุ่นมีอะไรบ้าง เพื่อที่คุณจะได้นำมากำหนดงบประมาณตั้งต้น งบประมาณในอนาคตหากต้องซ่อมแซม และกันงบประมาณแยกไว้สำหรับค่าใช้จ่ายรายย่อย เช่น ภาษี, ค่าใช้จ่ายสำหรับพ.ร.บ. รถกระบะ หรือค่าประกันภัย เป็นต้น
  2. เลือกรถที่เข้ากับไลฟ์สไตล์และการใช้งาน
    หลังจากศึกษาข้อมูลและทราบแล้วว่ารถกระบะมือสองรุ่นไหนที่ได้รับความสนใจสูง มีข้อดี - ข้อเสียอะไรบ้าง แต่ก็ไม่ได้แปลว่ารถรุ่นที่คนนิยมจะเหมาะกับคุณเสมอไป เพราะสิ่งสำคัญคือ ต้องเลือกรถที่เข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และลักษณะการใช้งานเป็นหลัก เช่น หากต้องการนำมาบรรทุกสัมภาระ ก็ควรเลือกรถรุ่นที่รองรับน้ำหนักได้มาก หรือหากต้องการนำมาใช้ประกอบอาชีพ ก็อาจจะต้องมองหารถกระบะมือสองที่สามารถรองรับการต่อเติมได้โดยไม่มีผลกระทบกับตัวรถตามมา 
  3. ตรวจสอบประวัติของรถ 
    อีกข้อสำคัญที่ลืมไม่ได้ คือ ควรต้องเช็คประวัติของรถกระบะมือสองให้ครบถ้วน ก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งเบื้องต้นควรติดต่อขอเช็คสภาพรถและทดลองขับ ควรตรวจสอบทั้งประวัติการชน ประวัติการซ่อม หรือประวัติการแต่งรถเพิ่มเติม โดยอาจจะพูดคุยกับเจ้าของเดิมเพื่อดูลักษณะการขับ เช็คว่าดูแลรถดีระดับไหน มีทะเบียนต่อเนื่องหรือไม่ ประกันรถหมดอายุแล้วหรือยัง ฯลฯ
  4. ตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียด  
    ต่อเนื่องหลังจากที่คุณเลือกรถกระบะมือสองที่ถูกใจได้และตรวจสอบประวัติเบื้องต้นแล้ว มาถึงขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือการตรวจเช็ครถก่อนตกลงซื้อ - ขาย โดยจะต้องตรวจเช็คทั้งภายนอกและภายในรถ
    • ภายนอกรถ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงรถโดยรวม สีรอบรถ ระบบเกียร์ ระบบเบรก ระบบไฟ และห้องเครื่อง โดยในการตรวจสภาพของเครื่องยนต์แนะนำว่าให้สตาร์ตรถในตอนที่เครื่องยังเย็นอยู่ เพื่อให้ทราบว่ารถยังสตาร์ตติดง่ายอยู่หรือไม่
    • ภายในรถ ให้ตรวจสอบทั้งระบบล็อก ระบบแอร์ รวมทั้งเช็คความเสื่อมสภาพของพวงมาลัย เบาะรถ ปุ่มควบคุม และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จะต้องสัมพันธ์กับเลขไมล์ของรถยนต์ หากไม่สัมพันธ์กัน นั่นอาจแปลว่ารถผ่านการซ่อมแซมมาบ่อยครั้งแล้ว
  5. ทดลองขับ หรือปรึกษามืออาชีพ
    ข้อนี้จำเป็นอย่างยิ่งหากต้องซื้อรถกระบะมือสอง เพราะจะได้สังเกตการทำงานของระบบต่างๆ ภายในรถได้ ซึ่งถ้าสตาร์ตรถแล้ว รถเกิดกระตุก เคลื่อนไปข้างหน้าแบบติดขัด เครื่องยนต์มีเสียงผิดปกติ หรือแม้กระทั่งระบบเลี้ยว และระบบรักษาความปลอดภัยทำงานได้ไม่เต็มที่ นั่นแปลว่ารถคันนี้ยังไม่ใช่รถที่คุณควรเป็นเจ้าของ ซึ่งถ้าคุณยังพอมีงบประมาณเหลือบางส่วน ก็ควรหาผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเช็คและทดลองขับก่อนซื้ออีกทางหนึ่ง จะได้ช่วยลดปัญหาค่าใช้จ่ายจากการซ่อมได้มากขึ้น
  6. เช็คเล่มทะเบียน ตรวจสอบเอกสาร
    ขั้นตอนสุดท้ายที่ลืมไม่ได้ คือ การตรวจสอบเอกสารต่างๆ โดยเฉพาะเล่มทะเบียนของรถยนต์ ว่ามีเป็นรถที่มีการจดทะเบียนอย่างถูกกฎหมาย รายละเอียดในเล่มทะเบียนตรงกับรถที่คุณกำลังจะซื้อหรือไม่ ส่วนเอกสารในการซื้อ - ขาย สัญญาที่ผู้ขายเตรียมไว้ต้องครบถ้วน ระบุชัดเจน ทั้งสำเนาบัตรประชาชน เอกสารที่เกี่ยวข้องกับทะเบียนรถ เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ หรือ พ.ร.บ. รถกระบะคันที่ต้องการซื้อ เป็นต้น

ซื้อประกันรถยนต์กับ Pocket คุ้มค่าสุดๆ

เช็คลิสต์ที่ควรรู้ วิธีเลือกประกันรถยนต์สำหรับรถกระบะมือสอง

เมื่อเลือกรถกระบะมือสองคู่ใจได้แล้ว มาถึงวิธีการเลือกประกันรถยนต์ที่ใช่สำหรับรถกระบะของคุณกันบ้าง ซึ่งที่จริงแล้ววิธีการเลือกจะค่อนข้างสอดคล้องกับการเลือกรถกระบะมือสองข้างต้น แต่จะมีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมที่ควรรู้อีกบ้าง ไปดูกันเลย

  1. เลือกให้เข้ากับสภาพรถของคุณ
    อันดับแรกให้พิจารณาดูว่ารถที่ซื้อต่อมานั้น สภาพใหม่หรือเก่าแค่ไหน โดยก่อนการทำประกัน ควรพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อดูแผนความคุ้มครองให้ละเอียดก่อน จะได้ทราบเงื่อนไขที่เหมาะสมกับสภาพรถ โดยอาจจะแบ่งได้ดังนี้ 
    • รถยังมีสภาพใหม่อยู่มาก แนะนำให้เลือกทำประกันรถชั้น 1 เพื่อคุ้มครองรถคันสวยทุกกรณีในระยะยาว เพราะสภาพรถยังใกล้เคียงกับรถกระบะมือ
    • สภาพรถอยู่ในระดับปานกลาง อาจเลือกทำประกันชั้น 2+ เพราะมีความคุ้มครองใกล้เคียงกับชั้น 1 แต่หากคุณมีงบประมาณเพียงพอ ก็ควรทำประกันรถชั้น 1 เลยจะดีกว่า เพราะประกันชั้น 2+ จะไม่ครอบคลุมการชนแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถขูดกำแพง เป็นต้น
    • รถมีสภาพค่อนข้างเก่า อายุรถเกิน 10 ปี แนะนำให้เลือกทำประกันชั้น 3+ เพราะรถผ่านการใช้งานมาพอสมควร จึงลดความกังวลด้านการถูกโจรกรรมได้ แต่หากรถเสียค่อนข้างบ่อยก็ต้องพิจารณาอีกที เพราะการทำประกันชั้น 1 หรือประกันชั้น 2+ ที่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน และมีบริการอู่ซ่อมที่ได้มาตรฐาน ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
  2. เลือกให้เข้ากับเงื่อนไขการใช้รถในชีวิตประจำวัน
    นอกจากจะต้องเลือกประกันให้เข้ากับสภาพรถยนต์แล้ว ก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับพฤติกรรมและความต้องการของคุณด้วย ไม่ว่าจะเป็น ใช้รถบ่อย ใช้รถน้อย ใช้เป็นรถสำหรับครอบครัว หรือใช้สำหรับประกอบอาชีพ จุดนี้คุณจำเป็นต้องพิจารณาแผนประกันที่ตรงกับเงื่อนไขในชีวิตประจำวันให้มากที่สุด เพื่อให้ได้ประโยชน์ที่คุ้มค่า
  3. เลือกโดยเปรียบเทียบราคา - เงื่อนไขความคุ้มครองจากหลายๆ แหล่ง
    โดยเปรียบเทียบประกันรถยนต์แต่ละประเภทและราคาของค่าเบี้ยประกันรถ ว่าของบริษัทไหนที่คุ้ม ราคาดี ตั้งต้นจากแผนความคุ้มครองจากงบประมาณที่มี ตลอดจนเงื่อนไขการเคลม ว่าครอบคลุมภัยใดบ้าง ครอบคลุมบุคคลใดบ้าง มีเงินชดเชยให้หรือไม่กรณีเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เป็นต้น เพื่อจะได้ประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการ และคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
  4. เลือกแผนประกันที่มีอู่ซ่อมหรือศูนย์บริการในเครือ
    เพราะรถกระบะมือสองอาจจะต้องซ่อมบ่อยกว่ารถป้ายแดง ดังนั้นการเลือกประกันรถยนต์ที่คัดสรรอู่หรือศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน ก็จะช่วยให้คลายกังวลหากต้องนำรถเข้าซ่อมได้ ยิ่งถ้าหากประกันรถยนต์ของบริษัทไหนที่มีอู่หรือศูนย์บริการในเครือจำนวนมาก และครอบคลุมทั่วประเทศ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายได้มากยิ่งขึ้น
  5. เลือกจากบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่เชื่อถือได้
    สามารถสอบถามรายละเอียดจากตัวแทน หรือเช็คเบี้ยประกันรถเบื้องต้นก่อนได้ด้วยตัวเอง เพราะเจ้าหน้าที่จะมีความเชี่ยวชาญ ช่วยตอบคำถามและช่วยเลือกแผนประกันรถยนต์ที่เหมาะกับรถกระบะมือสองของคุณได้ นอกจากนี้ยังควรเลือกบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่น่าเชื่อถือ และมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง เพื่อช่วยลดเวลาหาข้อมูลในกรณีที่กำลังตัดสินใจ และสามารถคุ้มครองได้จริง หากเกิดเหตุการณ์ที่ต้องการรับความคุ้มครองขึ้นมา

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่าขั้นตอนการเลือกซื้อรถกระบะมือสอง และประกันรถยนต์สำหรับรถกระบะมือสองนั้นมีหลายขั้นตอน 

ดังนั้นหากคุณกำลังพิจารณาอยู่ว่าควรเลือกประกันแบบไหนดี ที่จะใช่สำหรับกระบะมือสองคู่ใจของคุณมากที่สุด Pocket by LMG ยินดีเข้ามาดูแลและคลายความกังวลของคุณ เพราะเรามีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับรายละเอียดแผนประกันจนมั่นใจก่อนซื้อ ตลอดจนมีเว็บไซต์ให้คุณเช็คราคาเบี้ยประกันรถออนไลน์ได้สะดวกด้วยตัวเอง จึงมั่นใจได้ว่าเราพร้อมสำหรับการดูแลคุณและรถยนต์ที่คุณรักอย่างแน่นอน

หากคุณสนใจ สามารถติดต่อรับรายละเอียดต่างๆ ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ โทร.02-302-7788 (เวลา 09:00 - 18:00 น.)
- เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ผ่านทางออนไลน์ ได้ที่ www.pocketbylmg.com ตลอด 24 ชั่วโมง

รับฟรีโค้ดเติมน้ำมัน

ปรึกษาพร้อมรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพียงฝากข้อมูลของคุณด้านล่าง