เอาตัวรอดอย่างถูกวิธี เมื่อยางรถยนต์ระเบิดขณะเดินทาง

สาเหตุหลักที่ทำให้ยางรถยนต์ระเบิดหรือรถยางแตก

1. ขับรถในสภาพอากาศร้อนจัด อุณหภูมิที่สูงและมีแดดแรง จะทำให้ยางรถยนต์ร้อนขึ้นตามไปด้วย ซึ่งหากมีอุณหภูมิที่สูงมากพอ จะทำให้เกิดความร้อนและควันจากเนื้อยางที่เสื่อมสภาพ และส่งผลให้ระเบิดได้ หากมีการควบคุมอากาศยางที่ไม่ดีพอ
2. การเบรกแบบกระชั้นชิด ในสถานการณ์เร่งด่วนจะใช้แรงค่อนข้างมาก ยางรถยนต์เกิดการเสียดสีกัน ทำให้ร้อนและมีควันเกิดขึ้นจนทำให้รถยางแตกหรือระเบิดในที่สุด จะเห็นได้ชัดในเหตุการณ์การขับขี่บนสนามแข่งรถ
3. เติมลมยางแข็งเกิน อาจจะทำให้ยางรถยนต์มีการเกาะพื้นถนนได้ลดลง ทำให้การเคลื่อนไหวไม่สมดุลและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น ซึ่งการเติมลมยางรถจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักที่บรรทุกและเป็นไปตามรถแต่ละรุ่น จึงแนะนำให้อ่านคู่มือรถประกอบ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง
4. เลือกยางที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นขนาดของยางรถยนต์ที่ไม่พอดี เลือกใช้ยางกับรถที่ผิดประเภท รวมไปถึงเลือกยางที่ไม่ได้มาตรฐาน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงตามมาได้
5. ยางเสื่อมสภาพ ถึงแม้จะไม่มีรอยรั่วเกิดขึ้น แต่หากหน้ายางมีรอยแตก ดอกยางสึกหรอ ก็จะส่งผลให้รถยางแตกหรือระเบิดได้ โดยตามปกติแล้วแนะนำให้เปลี่ยนยางรถยนต์ทุกๆ 3-5 ปี หรือประมาณ 50,000 กิโลเมตร จะช่วยลดความเสี่ยงยางระเบิดขณะขับขี่ได้

เมื่อเกิดเหตุยางรถยนต์ระเบิดขึ้นขณะขับขี่ ควรปฎิบัติอย่างไร?

ขั้นตอนแรก พยายามควบคุมรถยนต์ให้มั่น ลดความเร็วของรถลงทันทีเมื่อรถยางแตกหรือระเบิด ควบคุมสติตนเอง และจอดรถในที่ปลอดภัยให้พ้นจากเส้นทางที่มีการจราจร ในขณะเดียวกันก็อย่าลืมเปิดไฟสัญญาณฉุกเฉิน เพื่อขอทางและแจ้งเตือนให้กับผู้ขับขี่คันอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งจะลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มเติมได้

หลังจากจอดรถในที่ปลอดภัยแล้ว ควรตรวจสอบสภาพยางรถยนต์และระบบอื่นๆ ในเบื้องต้น โดยให้เช็คสภาพยางก่อนเป็นอันดับแรกว่าเสียหายถึงขั้นไหน เกิดขึ้นกับล้อยางตำแหน่งไหนของรถบ้าง และมีระบบอื่นๆ ได้รับความเสียหายด้วยหรือไม่ รวมไปถึงตรวจเช็คอุปกรณ์ฉุกเฉินติดรถ เช่น ยางสำรอง เครื่องเติมลม เครื่องมือปะยาง ฯลฯ เพื่อความรวดเร็วในการขอความช่วยเหลือต่อไป

สำหรับการขอความช่วยเหลือเบื้องต้นนั้น แนะนำให้แจ้งเจ้าหน้าตำรวจจราจรก่อน เพื่อให้เคลียร์เส้นทางจราจรที่ติดขัด หลังจากนั้นโทรติดต่อประกันรถยนต์กับบริษัทที่ซื้อไว้ เพราะบริษัทจะช่วยเรียกช่างให้ถึงที่หรืออาจจะแนะนำศูนย์บริการซ่อมรถให้คุณได้ทันที แต่หากไม่ได้ซื้อประกันติดรถไว้ อาจจะต้องติดต่อที่เบอร์โทรฉุกเฉินหรือญาติเพื่อขอความช่วยเหลือแทน ควรหลีกเลี่ยงการซ่อมรถด้วยตัวเอง เพราะหากเราไม่มีความรู้หรือความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับยางรถยนต์ที่มากพอ จะก่อให้เกิดอันตรายอื่นๆ ตามมาได้

เคล็ดลับและวิธีป้องกันยางรถยนต์ระเบิดขณะเดินทาง

1. ตรวจสอบรถยนต์ก่อนเดินทาง ควรตรวจเช็คยางรถยนต์ทั้ง 4 ล้อทุกครั้ง ว่ามีรอยร้าว รอยแตก หรือมีปริมาณลมยางที่เหมาะสมแก่การเดินทางหรือไม่ แนะนำให้ดูคู่มือการใช้งานของรถแต่ละรุ่นประกอบและควรตรวจเช็คเป็นประจำทุกวันหรือทุกๆ สัปดาห์
2. ใช้ยางรถยนต์ที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับรุ่นรถและเส้นทางที่ต้องเดินทาง รวมถึงน้ำหนักที่รถต้องรองรับ ไม่ควรบรรทุกน้ำหนักที่มากเกินไป เพราะมีความเสี่ยงสูงที่รถยางแตกหรือระเบิดได้ โดยแนะนำให้สอบถามช่างผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม เพื่อการเปลี่ยนยี่ห้อยางที่ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือ ก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของรถได้มากขึ้นเช่นกัน
3. สำรองชุดเครื่องมือฉุกเฉิน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไกลเป็นประจำ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นขณะเดินทาง จะหาอุปกรณ์หรือศูนย์ซ่อมได้ค่อนข้างยาก การเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น แบตเตอรีสำรอง เครื่องเติมลมยางสำรอง ฯลฯ จะช่วยให้แก้ไขอาการเบื้องต้นก่อนส่งศูนย์ซ่อมได้ 

และเพื่อความอุ่นใจในทุกการเดินทางของทุกคน Pocket by LMG เราพร้อมช่วยเหลือคุณตลอด 24 ชม. หากรถยางแตกหรือเกิดยางระเบิดขึ้น บริษัทพร้อมคุ้มครองให้คุณได้รวดเร็ว ทันใจ ใกล้ไกลแค่ไหนก็หายห่วง เพราะเรามีศูนย์และอู่ในเครือที่ให้บริการซ่อมกว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศ สนใจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมหรือสามารถเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับคุณผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลยตลอด 24 ชม. ที่ www.pocketbylmg.com