นอกจากเรื่องสีมงคลและฤกษ์ออกรถแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เจ้าของรถต่างให้ความสนใจไม่แพ้กัน ก็คือ เลขทะเทียนรถยนต์ ที่ต้องสื่อความหมายดีและส่งเสริมผู้ขับขี่ ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนอาจมีตัวเลขในใจ ไม่ว่าจะเป็นเลขมงคลหรือเลขที่จดจำง่าย แต่อาจยังไม่รู้วิธีจองทะเบียนรถสวยมาครอบครอง โดยในปัจจุบัน มีช่องทางการจองทะเบียนรถออนไลน์ ซึ่งอำนวยความสะดวกและช่วยให้ประหยัดเวลามากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปจองทะเบียนรถกรมการขนส่งทางบกด้วยตนเอง
แล้วขั้นตอนการจองทะเบียนรถมีอะไรบ้าง Pocket ได้รวบรวมเรื่องควรรู้และวิธีจองทะเบียนรถมาฝากกัน มาดูกันเลย

รถประเภทใดบ้างที่สามารถจองทะเบียนออนไลน์ได้
ก่อนเริ่มจองทะเบียนรถสวย ควรรู้ว่ามีรถประเภทใดที่สามารถจองเลขทะเบียนออนไลน์ได้ โดยกรมขนส่งทางบกได้จำแนกเอาไว้ทั้งหมด 4 ประเภท ดังนี้
1. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รวมถึงรถเก๋งและรถกระบะ 4 ประตู)
2. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (เช่น รถตู้ และรถ MPV ขนาดใหญ่)
3. รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะแค็บ รถกระบะ 2 ประตู)
4. รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (ครอบคลุมทั้งจักรยานยนต์ทั่วไปและบิ๊กไบค์)
ขั้นตอนการจองทะเบียนรถออนไลน์แบบละเอียด
การจองทะเบียนรถกับกรมการขนส่งทางบกนั้นมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แต่ต้องดำเนินการตามลำดับขั้นตอน ดังนี้
1. เตรียมความพร้อมก่อนจอง
- ตรวจสอบคุณสมบัติ - ต้องได้รับมอบรถจากศูนย์ หรือเจ้าของเดิม และมีข้อมูลรถที่ส่งไปยังกรมการขนส่งทางบกเรียบร้อยแล้ว หากกรมขนส่งทางบกไม่มีข้อมูลรถยนต์ จะไม่สามารถทำการจองเลขป้ายทะเบียนได้
- เตรียมข้อมูลรถยนต์ - เจ้าของรถควรจดบันทึกเลขตัวถังรถ และยี่ห้อรถยนต์ตามที่ระบุในเล่มทะเบียนหรือใบจอง
- เตรียมข้อมูลส่วนตัว - เลขบัตรประชาชน คำนำหน้าชื่อ ชื่อ-นามสกุล (หรือชื่อนิติบุคคล) และเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ThaID - ในการจองทะเบียนรถออนไลน์ ผู้ใช้งานจำเป็นต้องล็อกอินเข้าสู่ระบบผ่าน ThaID จึงแนะนำให้ดาวน์โหลดแอป ThaID และลงทะเบียนล่วงหน้า เพื่อใช้สำหรับยืนยันตัวตนในขณะที่จองทะเบียนรถยนต์
2. เข้าสู่ระบบการจองทะเบียน
- เข้าเว็บไซต์ - ไปที่ https://reserve.dlt.go.th/reserve ในช่วงเวลาที่ระบบเปิดให้บริการ (10.00 - 16.00 น.) ตามวันทำการที่กำหนดในตารางจองทะเบียน
- ยืนยันตัวตน - หากเป็นการใช้งานครั้งแรก กดปุ่ม "จองหมายเลขทะเบียนรถ" ระบบจะแสดง QR Code ให้ใช้แอป ThaID สแกน เพื่อเข้าสู่ระบบ
- หากเป็นการเข้าสู่แอป ThaID ครั้งแรก ให้สแกนบัตรประชาชนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- สแกนใบหน้าตามขั้นตอนในแอป
- ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องและยืนยันตัวตน
- ยอมรับหลักเกณฑ์ - เมื่อล็อกอินเสร็จ ระบบจะแสดงหลักเกณฑ์การจอง ให้อ่านอย่างละเอียดและกดปุ่ม "ยอมรับหลักเกณฑ์"
3. เลือกประเภทรถและกรอกข้อมูลรถ
- เลือกประเภทรถ - ระบบจะแสดงตัวเลือกประเภทรถพร้อมหมวดเลขทะเบียนที่เปิดจอง ให้เลือกประเภทรถที่ตรงกับรถของคุณ
- หมวดเลขทะเบียนจะแตกต่างกันในแต่ละวัน หากไม่พบหมวดที่ต้องการ ให้ตรวจสอบตารางจองในวันอื่น
- เลือกประเภทการจอง - เลือกว่าจองในนาม "บุคคลธรรมดา" หรือ "นิติบุคคล/ชาวต่างชาติ"
- กรอกข้อมูลส่วนตัว - กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและถูกต้องทุกช่อง โดยเฉพาะ
- เลขบัตรประชาชน/ทะเบียนการค้า (กรอกติดกันโดยไม่มีขีดคั่น)
- คำนำหน้าชื่อ ชื่อ-นามสกุล ให้ตรงตามบัตรประชาชน
- เลขตัวถังรถ (เป็นภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็กเท่านั้น)
- ยี่ห้อรถยนต์ (เลือกให้ตรงกับเล่มทะเบียนหรือใบจอง)
- เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้
4. เลือกเลขทะเบียนและยืนยันการจอง
- เลือกเลขทะเบียน - ระบุเลขทะเบียนที่ต้องการ (เลือกได้เฉพาะเลข 4 หลักเท่านั้น)
- ต้องไม่เป็นเลขทะเบียนประมูล (เลขสวย) จำนวน 301 หมายเลขที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้
- หากระบบแจ้งว่าเป็นเลขประมูล ให้เลือกเลขอื่น
- ตรวจสอบข้อมูล - ระบบจะแสดงข้อมูลทั้งหมดที่กรอก ให้ตรวจสอบความถูกต้องอย่างละเอียดอีกครั้ง
- หากพบข้อผิดพลาด ให้กด "ยกเลิก" และกรอกใหม่
- ข้อมูลที่ผิดพลาดจะทำให้การจองเป็นโมฆะ และต้องรอ 3 เดือนจึงจะจองใหม่ได้
- ยืนยันการจอง - เมื่อแน่ใจว่าข้อมูลถูกต้องทั้งหมด ให้กด "ตกลง" เพื่อยืนยันการจอง
5. ตรวจสอบผลการจองทะเบียน
- เข้าสู่หน้าตรวจสอบ - คลิกที่ปุ่ม "ตรวจสอบผลการจอง" ทางด้านขวามือ
- กรอกข้อมูล - ใส่เลขบัตรประชาชน/ทะเบียนการค้า/หนังสือเดินทาง และเลขตัวถังรถที่ใช้จอง
- ค้นหาและบันทึกผล - กด "ค้นหา" เพื่อแสดงผลการจอง และบันทึกหน้าจอไว้เป็นหลักฐาน
- ควรบันทึกทั้งภาพหน้าจอและพิมพ์เอกสารเพื่อใช้ในขั้นตอนการจดทะเบียน
ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจองทะเบียนรถ
การจองทะเบียนรถออนไลน์ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่จะมีค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนการจดทะเบียน ได้แก่
- การสลับป้ายทะเบียนรถที่ได้จากการจอง - 500 บาท
- การสลับป้ายทะเบียนรถประมูลที่ได้จากการจอง - 1,500 บาท
- ค่าแผ่นป้ายทะเบียน - ป้ายละ 100 บาท
- ค่าคำขออื่น ๆ - 75 บาท
- ค่าตรวจสภาพรถยนต์ (กรณีรถใหม่) - 50 บาท
- ค่าภาษีรถยนต์ประจำปี - อัตราแตกต่างกันตามประเภทและขนาดรถ
สิ่งสำคัญควรรู้ก่อนจองทะเบียนรถออนไลน์
1. ช่วงเวลาการจอง - ระบบจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์จะเปิดให้จองตั้งแต่ 10.00 - 16.00 น. ตามวันที่กำหนดในตารางการจอง ซึ่งไม่สามารถเข้าจองหมายเลขนอกเวลาได้
2. การตรวจสอบข้อมูล - ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทุกครั้งก่อนยืนยันการจอง โดยเฉพาะชื่อ-นามสกุล และเลขบัตรประจำตัวประชาชน หากไม่ตรงกับบัตรประชาชน จะถือว่าไม่ใช่บุคคลเดียวกันและไม่สามารถนำเลขไปจดทะเบียนได้
3. ระยะเวลาในการจดทะเบียน - เลขทะเบียนที่จองได้จะต้องนำรถมาจดทะเบียนภายใน 15 วันทำการนับจากวันที่ได้รับการยืนยันการจอง หากไม่ดำเนินการภายในกำหนด สิทธิ์จะถูกยกเลิกและเลขทะเบียนจะกลับไปอยู่ในระบบให้ผู้อื่นจองต่อไป
4. ข้อจำกัดการจอง - หลังจากจองเลขทะเบียนแล้ว หากต้องการจองอีกครั้ง ต้องรอ 3 เดือนนับจากวันที่จองครั้งล่าสุด ยกเว้นกรณีมีรถมากกว่า 1 คัน สามารถยื่นเอกสารเพิ่มเติมเพื่อขออนุมัติจองรถคันที่สองได้
5. ความเป็นเจ้าของ - เลขทะเบียนที่จองได้จะจดทะเบียนด้วยชื่อที่จองเท่านั้น ไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเป็นชื่อผู้อื่นได้ และรถที่นำมาจดทะเบียนต้องมีชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้ครอบครองเป็นชื่อเดียวกันกับผู้จอง
6. ข้อจำกัดทางเทคนิค - 1 IP address สามารถจองได้เพียง 1 ครั้งต่อวัน สามารถจองผ่านโทรศัพท์มือถือได้ แต่ต้องมีการยืนยันตัวตนผ่านแอป ThaID
7. การยกเลิกการจอง - ไม่สามารถยกเลิกการจองได้ หากต้องการเปลี่ยนเลขทะเบียนใหม่ ต้องรอ 3 เดือน และข้อมูลที่ผิดพลาดในการจองไม่สามารถแก้ไขได้
8. ตารางการจอง - ตรวจสอบตารางเปิดจองหมายเลขได้ที่ https://reserve.dlt.go.th/reserve โดยเลือก "ตารางเปิดจองหมายเลข" ซึ่งจะอัปเดตทุกสัปดาห์
ขั้นตอนต่อไปหลังจากจองทะเบียนรถออนไลน์
เมื่อจองทะเบียนรถออนไลน์สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการนำรถไปจดทะเบียนที่สำนักงานขนส่ง โดยควรเตรียมเอกสารต่างๆ ให้พร้อม ดังนี้
สำหรับรถใหม่ (ป้ายแดง)
1. เอกสารที่ต้องเตรียม
- ใบจองเลขทะเบียนรถที่พิมพ์จากหน้าเว็บไซต์
- หนังสือรับรองหลักฐานการส่งบัญชีรับและจำหน่ายรถ
- หนังสือแจ้งจำหน่ายรถจากบริษัทผู้ผลิต
- หลักฐานการได้รถ (ใบเสร็จรับเงิน, ใบกำกับภาษี, สัญญาเช่าซื้อ)
- หลักฐานการทำ ประกันรถยนต์ (พ.ร.บ.)
- สำเนาบัตรประชาชนผู้จอง
- หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจ (กรณีไม่สามารถไปดำเนินการเอง)
2. ขั้นตอนที่กรมขนส่ง
- ยื่นเอกสารและหลักฐานกับเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบเอกสาร
- นำรถยนต์ไปตรวจสภาพ (ยกเว้นกรณีที่ตัวแทนจำหน่ายรถเป็นผู้จดทะเบียนให้)
- ชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ (ค่าจดทะเบียนรถใหม่ ค่าตรวจสภาพรถ ค่าแผ่นป้ายทะเบียน ค่าภาษีรถยนต์ประจำปี)
- รับแผ่นป้ายทะเบียนรถ เครื่องหมายการเสียภาษีประจำปี และใบคู่มือจดทะเบียนรถ
สำหรับรถที่มีป้ายทะเบียนอยู่แล้ว
1. เตรียมเอกสาร
- ใบคู่มือจดทะเบียนรถ (ตัวจริง)
- สำเนาบัตรประชาชน
- แบบคำขออื่นๆ
- ใบจองเลขทะเบียนที่พิมพ์จากหน้าเว็บไซต์
2. ขั้นตอนที่กรมขนส่ง
- รับบัตรคิวและยื่นเอกสาร
- นำป้ายทะเบียนเก่ามายื่นคืน
- ชำระค่าธรรมเนียม
- รับป้ายทะเบียนใหม่
การจองทะเบียนรถออนไลน์ถือเป็นหนึ่งในบริการที่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าของรถได้อย่างมาก นอกจากความรวดเร็วแล้วยังลดความแออัดที่กรมขนส่งทางบกอีกด้วย ช่วยให้เจ้าของรถได้เลขทะเบียนที่ถูกใจโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง อย่างไรก็ตาม ควรปฏิบัติตามขั้นตอนและเงื่อนไขอย่างถูกต้อง เพื่อให้การจองสำเร็จลุล่วงด้วยดีและไม่เป็นโมฆะ
ทั้งนี้ หลังจากจองทะเบียนรถเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมซื้อประกันรถยนต์เพื่อเพิ่มความคุ้มครองและความอุ่นใจในทุกการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ป้ายแดง หรือรถมือสอง ซึ่ง Pocket by LMG นำเสนอแผนประกันรถยนต์ออนไลน์ที่หลากหลาย ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, 2+ และ 3+ เรายินดีให้คำปรึกษาและแนะนำแผนประกันที่เหมาะสม เพื่อให้การใช้รถใช้ถนนเป็นไปอย่างอุ่นใจ สามารถดูแผนประกันรถยนต์ออนไลน์ พร้อมเปรียบเทียบประกันรถยนต์ และเช็คเบี้ยได้ง่ายๆ ที่ www.pocketbylmg.com/ หรือโทร. 02-302-7788 เพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ พร้อมรับแผนประกันที่ตอบโจทย์ในราคาที่คุ้มค่า