รถหาย รถถูกโจรกรรม ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง

ควรทำอย่างไรเมื่อรู้ตัวว่ารถหาย

เมื่อรู้ตัวว่าหารถไม่เจอ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ตั้งสติให้เร็วที่สุด พร้อมสำรวจข้อมูลต่างๆ ดังนี้

• สำรวจบริเวณรอบๆ จุดจอดเดิมดูก่อนว่ารถหายจริงๆ หรือไม่ หรือแค่มีใครเข็นรถเราออกไปไกลจากจุดจอดเดิม
• ลองสอบถามคนที่อยู่บริเวณรอบๆ นั้นหรือรปภ.ดูว่า เห็นใครทำอะไรผิดปกติบริเวณรถของเราหรือไม่ มีใครได้เคลื่อนย้ายรถออกไปหรือเปล่า
• ตรวจสอบดูว่าบริเวณนั้นมีกล้องวงจรปิดหรือไม่ 

หากมั่นใจแล้วว่ารถหายจริง และบริเวณนั้นมีรปภ.ดูแลอยู่ด้วย ให้เราแจ้งรปภ.ไว้ก่อน และสอบถามขั้นตอนการขอดูกล้องวงจรปิดว่าต้องทำอย่างไร ต้องใช้เอกสารประกอบการขอดูกล้องวงจรปิดหรือไม่ รวมถึงให้นึกถึงทรัพย์สินที่อยู่ภายในรถด้วยว่ามีอะไรบ้างที่หายไป เพื่อจะได้นำข้อมูลไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่

ขั้นตอนที่ 2 ระหว่างเดินทางไปแจ้งความให้แจ้งสายด่วนศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่เบอร์ 1192  

ขั้นตอนที่ 3 แจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่เพื่อลงบันทึกประจำวัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบถามรายละเอียดต่างๆ เช่น ยี่ห้อรถ รุ่นรถ สี เลขทะเบียน สถานที่เกิดเหตุ วัน เวลาเกิดเหตุ ฯลฯ เพื่อเป็นหลักฐานในการตามหารถหายและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงเราจะได้นำเอกสารลงบันทึกประจำวันมาเป็นหลักฐานประกอบการยื่นขอเคลมประกันกับบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่ทำไว้ 

ขั้นตอนที่ 4 ให้แจ้งบริษัทประกันรถยนต์ที่เราทำไว้ หากทำประกันชั้น 1, ชั้น 2+ หรือชั้น 2 เอาไว้ ก็สามารถเคลมประกันได้  โดยบริษัทฯ จะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ที่เราได้ทำไว้ โดยประกันรถยนต์แต่ละชั้นก็จะให้ความคุ้มครองแตกต่างกันออกไป 

ขั้นตอนที่ 5 ลงประกาศตามหารถในช่องทางโซเชียลมีเดีย เพื่อเพิ่มโอกาสในการตามหารถเจอได้เร็วมากขึ้น

ขั้นตอนที่ 6 โทรแจ้งหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความช่วยเหลือและช่วยกระจายข่าว เช่น 

• จ.ส.100: โทร. *1808 (ฟรี) หรือ โทร. 1137 (มีค่าบริการ)
• สถานีวิทยุ สวพ.91: โทร. 1644   
• สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน: โทร. 1677

ขั้นตอนที่ 7 กรณีที่รถหายแต่ยังผ่อนรถอยู่ให้แจ้งไฟแนนซ์ด้วย

กรณีรถหาย รถถูกโจรกรรม ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง

อย่างที่ทราบกันดีว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นชั้นประกันที่ให้ความความคุ้มครองสูงสุด ซึ่งกรณีรถหายและทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้ จะสามารถเคลมประกันได้สูงสุดที่ 80% ของราคารถยนต์ (ราคารถ x 80%)

โดยทุนประกันจะถูกกำหนดจากราคารถยนต์ในวันที่ทำประกัน เช่น รถยนต์ราคา 1,000,000 บาท จะได้ทุนประกันคืนสูงสุด 800,000 บาท

รถหายแต่ยังผ่อนรถอยู่ ต้องผ่อนต่อหรือไม่

เมื่อทราบแล้วว่ากรณีรถหาย รถถูกโจรกรรม ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้างให้กับเรา อีกหนึ่งคำถามที่หลายคนอาจสงสัยก็คือ หากตรวจสอบแล้วพบว่ารถหายจริง ตามคืนไม่ได้ แต่ยังผ่อนรถอยู่จะต้องผ่อนต่อหรือไม่ คำตอบก็คือ “ไม่ต้องผ่อนต่อ แต่อาจจะต้องจ่ายค่าเสียหายบางส่วน” ดังนี้

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า หากรถหายในขณะที่ยังผ่อนอยู่จะต้องแจ้งกับไฟแนนซ์ให้ทราบด้วย นั่นก็เพราะว่า บริษัทประกันจะต้องจ่ายค่างวดที่เหลือตามจริงให้กับไฟแนนซ์ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ หากค่างวดรถที่เหลือรวมแล้วไม่เกินจำนวนทุนประกันที่ทำไว้ เราก็จะไม่ต้องผ่อนค่างวดรถต่อ และบริษัทประกันก็จะมอบส่วนต่างให้กับเรา 

แต่หากค่างวดรถคงค้างมากเกินกว่าทุนประกันที่ทำไว้ เราจะต้องรับผิดชอบค่างวดรถส่วนที่เหลือจนครบ หรือจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองกับไฟแนนซ์เอง หากไม่สามารถเจรจากันได้ ศาลจะเป็นผู้พิจารณาตัดสินให้

ประกันรถยนต์ชั้น 1 จาก Pocket by LMG คุ้มครองกรณีรถหาย รถถูกโจรกรรม

สำหรับประกันรถยนต์ชั้น 1 ของ Pocket by LMG นั้นก็ให้ความคุ้มครองกรณีรถหาย รถถูกโจรกรรมด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผลมาจากการลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ ฯลฯ ก็จะได้รับจำนวนวงเงินคุ้มครองตามทุนประกันที่ทำไว้ ดังนั้นก่อนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายกรณีรถหายไม่ว่าจะผ่อนอยู่หรือไม่ก็ตาม ที่สำคัญ Pocket by LMG มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมงด้วย ดังนั้นคุณสามารถอุ่นใจได้เลยว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อไหร่ Pocket by LMG พร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ 

หากสนใจทำประกันรถยนต์ชั้น 1 สามารถเช็คเบี้ยประกันผ่านทางออนไลน์ได้ง่ายๆ ที่ www.pocketbylmg.com