ในการเดินทางแต่ละครั้งไม่ว่าจะใกล้หรือไกล อาจเกิดอุบัติเหตุหรือสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว ทำให้ผู้ขับขี่จำเป็นต้องใช้บริการรถยกหรือรถลาก เพื่อเคลื่อนย้ายรถไปยังอู่ซ่อม
ซึ่งในกรณีนี้ หลายคนอาจจะยังสงสัยกันอยู่ว่า หากมีประกันรถยนต์แล้วต้องเรียกใช้บริการรถยก รถลาก ใครกันที่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ซึ่ง Pocket by LMG ได้หาคำตอบมาให้แล้ว ตลอดจนพาไปดูกันว่า กรณีไหนบ้างที่ควรจะเรียกใช้บริการรถยก รถลาก ไปดูคำตอบพร้อมกันเลย
![รู้ไว้ก่อนเดินทาง กรณีไหนต้องใช้รถยก รถลาก ใครจ่ายค่าบริการ](/sites/default/files/2023-12/Pocket-by-LMG_Dec2023_Content3_%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%21-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%81-%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%81-%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-_720x475.jpg)
2 กรณีที่ควรเรียกใช้บริการรถยก หรือรถลาก
โดยปกติแล้ว กรณีที่ควรจะต้องเรียกใช้บริการรถยกหรือรถลาก แบ่งออกเป็น 2 กรณีหลัก นั่นก็คือ กรณีรถเสีย กับกรณีรถเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งสาเหตุจะค่อนข้างใกล้เคียงกัน โดยอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้
![ซื้อประกันรถยนต์กับ Pocket คุ้มค่าสุดๆ](/sites/default/files/inline-images/Pocket_banner%2001_37.png)
1. รถเสีย ครอบคลุมทั้งกรณีที่รถสตาร์ตไม่ติด น้ำมันหมด ทั้งน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก หม้อน้ำรั่ว ยางแตก หรือแม้กระทั่งภายในเครื่องยนต์มีปัญหา จนไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้
2. รถเกิดอุบัติเหตุ สาเหตุหลักๆ จะมาจาก รถชนรถ รถเสียหลัก เครื่องยนต์ดับ หรือรถเกิดเพลิงไหม้จนกีดขวางการจราจร หรือเสียหายจนไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถได้ด้วยตัวเอง
ข้อควรรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับรถยกและรถลาก
รถยก (รถสไลด์)
- ใช้ในกรณีที่รถเสียหายหนัก ล้อรถเสียหายจนไม่สามารถลากได้
- เป็นการยกรถทั้งคันไปบนรถอีกคันหรือยกขึ้นบนถาดสไลด์เพื่อเคลื่อนย้าย
- ควรใช้ในกรณีที่จะต้องเคลื่อนย้ายรถในระยะทางไกล
- ค่าบริการสูงกว่ารถลาก เพราะมีระบบที่ปลอดภัยสูง ล็อกแน่นหนา และไม่สร้างความเสียหายให้ช่วงล่างของรถยนต์เพิ่ม
รถลาก
- ใช้ในกรณีที่รถไม่ได้เสียหายหนัก ล้อรถคู่หน้า หรือคู่หลังยังใช้งานได้
- เป็นการลากจูงด้วยสลิง หรือเชือกที่แข็งแรง ทนทาน
- ควรใช้ในกรณีที่ลากรถไปในระยะทางไม่ไกลมาก
- ค่าบริการย่อมเยากว่ารถยก เพราะมีความเสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายให้ตัวรถยนต์เพิ่มขณะลากรถไปอู่ซ่อมได้
กรณีรถเสีย รถเกิดอุบัติเหตุ ใครเสียค่าบริการยกรถ หรือลากรถไปอู่ซ่อม?
ทราบกันแล้วว่ากรณีไหนบ้างที่ควรเรียกบริการรถยกหรือรถลาก ทีนี้มาถึงเรื่องสำคัญอย่าง ระหว่างบริษัทประกันหรือผู้เอาประกัน ใครที่จะต้องเป็นผู้จ่ายค่าบริการ โดยในที่นี้จะขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีที่เกิดขึ้นขณะขับรถยนต์และเงื่อนไขของกรมธรรม์ ดังนี้
1. กรณีรถเสีย
ปกติแล้วผู้เอาประกันจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าบริการรถยกหรือลากรถเอง ซึ่งสามารถติดต่อใช้บริการจากบริษัทยกรถหรือลากรถได้เลยทันที แต่หากประกันรถยนต์ที่คุณซื้อไว้ มีบริการครอบคลุมรถยก รถลาก ก็สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ช่วยเหลือเบื้องต้นได้
2. กรณีรถเกิดอุบัติเหตุ
ในที่นี้บริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าบริการรถยกหรือลากรถให้ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์นั้นๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะรับผิดชอบไม่เกินร้อยละยี่สิบของค่าซ่อมแซม และมีข้อกำหนดในเรื่องของระยะทางที่สามารถใช้บริการยกหรือลากรถได้ ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ภายใน 20 กม. จากจุดเกิดเหตุ หากเกินกว่านั้น อาจมีค่าใช้จ่ายส่วนต่างเพิ่มเติม แต่ทั้งนี้ประกันรถยนต์ชั้น 1 ส่วนใหญ่ ก็มักจะครอบคลุมค่าบริการรถยกหรือลากรถไปที่สถานีตำรวจเพื่อดำเนินการสอบสวน และค่าบริการรถลากไปที่อู่เพื่อซ่อมแซมอยู่แล้ว
อุ่นใจทุกเส้นทาง แค่มีประกันรถยนต์ Pocket by LMG
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่า เมื่อรถเกิดเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ การมีประกันรถยนต์ไว้นั้นเป็นอีกทางเลือกที่ดี เพราะสามารถช่วยจัดการทั้งเรื่องของคู่กรณี การนำรถเข้าซ่อมแซม และยังช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายเมื่อต้องนำรถเข้าซ่อมอีกด้วย
เพราะฉะนั้น ขอแนะนำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 จาก Pocket by LMG ประกันชั้น 1 ของเราคุ้มครองครบถ้วน พร้อมมอบความคุ้มค่า โดยมีรายละเอียดความคุ้มครองกรณีรถเกิดอุบัติเหตุ ดังนี้
1. คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์
- คุ้มครองทั้งกรณีชนกับพาหนะทางบก ชนแบบไม่มีคู่กรณี และกรณีรถยนต์ไฟไหม้
- กรณีชนกับพาหนะทางบก ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง และสิ่งที่ติดอยู่กับตัวรถยนต์ (ไม่รวมความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้) โดยมีจํานวนเงินคุ้มครองขั้นต่ำ 50,000 บาท* (รถจักรยานยนต์ 5,000 บาท)
- กรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นเหมือนกรณีชนกับยานพาหนะทางบก แต่เจ้าของรถยนต์จะต้องเสียค่า Excess ตามความเสียหายนั้น แล้วแต่จะตกลงกัน ส่วนมากจะอยู่ที่จุดละ 1,000 บาท*
- กรณีรถยนต์ไฟไหม้ ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง และสิ่งที่ติดอยู่กับตัวรถยนต์ที่ถูกไฟไหม้ ไม่ว่าจะเป็นการไหม้โดยตัวรถยนต์เอง หรือไหม้ด้วยสาเหตุอื่นๆ
- ให้ทุนประกันสูง จำนวนวงเงินคุ้มครองตามทุนประกันภัยที่ลูกค้าสมัครรับความคุ้มครอง ซึ่งรายละเอียดจะขึ้นอยู่กับแต่ละแผนประกัน
2. คุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินบุคคลภายนอก
- คุ้มครองทั้งบุคคลภายนอกซึ่งบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พร้อมคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน
- กรณีคุ้มครองบุคคลภายนอก คุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 1,500,000 บาท/คน และสูงสุดไม่เกิน 10,000,000 บาท/ครั้ง
- กรณีคุ้มครองทรัพย์สิน คุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 2,500,000 บาท/ครั้ง
3. ความคุ้มครองเพิ่มเติม
- คุ้มครองบุคคลภายในรถ ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าสินไหมทดแทน (ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล) รวมทั้งการประกันตัวผู้ขับขี่
- จำนวนวงเงินคุ้มครอง ตามทุนประกันที่ลูกค้าสมัครรับความคุ้มครอง
4. พิเศษ! บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง
ประกันรถยนต์ Pocket by LMG ครอบคลุมความช่วยเหลือกรณีที่ต้องใช้รถยกหรือรถลาก มอบความคุ้มครองสุดคุ้มสำหรับทุกแผนประกัน
- บริการยกหรือลากรถ ฟรีสูงสุดเป็นระยะทาง 35 กม. นับจากจุดที่รถจอดเสียอยู่ หากเกิน 35 กม. เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบก่อนทุกครั้ง และลูกค้าจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกินเอง ซึ่งลูกค้าสามารถรับบริการได้ 1 ครั้ง/ปี
- เรามีอู่หรือศูนย์บริการในเครือกว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศ จึงสะดวกสบายในการติดต่อเข้ารับบริการซ่อมแซม
หากคุณสนใจทำประกันรถยนต์ Pocket by LMG เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจขณะขับขี่ หรือต้องการเช็คค่าเบี้ยประกันภัย สามารถเช็คผ่านทางออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง ที่เว็บไซต์ www.pocketbylmg.com หรือโทร.02-302-7788 (09.00 - 18.00 น.) เพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับแผนประกันเพิ่มเติม
![รับฟรีโค้ดเติมน้ำมัน](/sites/default/files/inline-images/Pocket_banner%2002_35.png)