ในยุคที่ผู้คนเริ่มตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนจากการใช้รถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิงมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า EV (Electric Vehicle) จึงเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันด้วย อย่างไรก็ตาม หนึ่งในปัญหาที่พบเจอเมื่อมองถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ คือ เรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นของเบี้ยประกันรถยนต์ EV เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงนั่นเอง และนี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้เบี้ยประกันสำหรับรถ EV แพงกว่ารถน้ำมันทั่วไป
5 เหตุผลที่เบี้ยประกันรถยนต์ EV แพงกว่ารถทั่วไป
การที่ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ EV แพงกว่ารถยนต์ทั่วไปนั้น เกิดจากปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อการกำหนดราคาประกันรถ EV เช่น
- ราคาของรถยนต์ EV สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป
แม้ว่าราคาของรถยนต์ EV กำลังลดลงเรื่อย ๆ แต่ก็ถือว่ายังสูงกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง จึงทำให้ค่าเบี้ยประกันยังคงสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป
- การซ่อมแซมรถยนต์ EV มีค่าใช้จ่ายสูง
การซ่อมแซมรถยนต์ EV มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป เนื่องจากเทคโนโลยีที่ซับซ้อน ชิ้นส่วนอะไหล่ที่มีราคาแพงและหายาก รวมถึงศูนย์บริการรถ EV ยังมีน้อย ต้องใช้ช่างเฉพาะทางที่มีความรู้เรื่องการซ่อมรถ EV จริง ๆ จึงส่งผลให้ค่าเบี้ยประกันรถ EV สูงขึ้นตามไปด้วย
- แบตเตอรี่รถ EV มีราคาสูง
แบตเตอรี่รถ EV ถือว่าเป็นหัวใจหลักของรถ EV เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นแหล่งกำเนิดพลังงาน คอยจ่ายไฟให้ระบบการขับขี่ และถูกเชื่อมต่อเข้ากับส่วนประกอบสำคัญของเครื่องยนต์หลายส่วน ดังนั้นเมื่อรถ EV เกิดปัญหาอันเนื่องมาจากการใช้งานรถที่ไม่ถูกต้อง จนทำให้แบตเตอรี่มีปัญหา หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา อาจทำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ยกชุด และด้วยเหตุผลนี้เอง บริษัทประกันรถยนต์ จึงต้องกำหนดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ EV ไว้สูงกว่ารถยนต์น้ำมันทั่วไป เพื่อให้วงเงินสามารถคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้นั่นเอง
- ความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมตลาดรถยนต์
เนื่องด้วยตลาดรถยนต์ EV กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่การเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ ส่งผลให้บริษัทประกันรถยนต์ต้องรับความเสี่ยงทางการเงินที่สูงขึ้นตาม เนื่องจากจำนวนผู้ใช้รถ EV ในประเทศไทยยังมีจำนวนไม่มาก ข้อมูลสถิติในการเคลมประกันเพื่อนำไปใช้คำนวณต้นทุนค่าเบี้ยประกันรถยนต์อาจไม่เพียงพอ ที่จะช่วยในการประเมินค่าเบี้ยประกันที่เหมาะสมให้กับบริษัทประกันได้
- บริษัทประกันรถยนต์ต้องปรับตัวอีกมาก
บริษัทประกันรถยนต์ต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจจำเป็นต้องลงทุนพัฒนาความรู้และทักษะใหม่ ๆ เพื่อปรับปรุงความคุ้มครองประกันรถยนต์ เพื่อรองรับรถยนต์ EV ที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจง และปรับกลยุทธ์รูปแบบ ราคาประกันรถยนต์ให้เหมาะสมกับรถ EV อีกมาก
รู้หรือไม่? Pocket by LMG มีประกันรถยนต์ EV ด้วย
ในประเทศไทยมีบริษัทรับทำประกันรถยนต์ EV เพียงไม่กี่แห่ง แต่คุณสามารถซื้อประกันรถยนต์ EV กับ Pocket by LMG ของเราได้ ซึ่งให้การคุ้มครองที่ครอบคลุม โดยราคาเบี้ยประกันของรถ EV อย่าง ORA Good Cat เริ่มต้น 30,000 บาท* และนอกจากรถยนต์ไฟฟ้า ORA แล้ว เรายังมีรถยนต์ EV อีกหลากหลายแบรนด์ที่ Pocket by LMG ให้การคุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็น MG, BYD, Neta, Volvo และ BMW ที่สำคัญเรายังมีอู่และศูนย์ซ่อมที่ได้มาตรฐานกว่า 1,800 แห่งทั่วประเทศ มีบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถปรับเลือกแผนประกันรถยนต์ EV ได้ตามความต้องการ
*หมายเหตุ - ค่าเบี้ยประกันแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือก
เบี้ยประกันรถยนต์ EV จาก Pocket by LMG ซื้อง่ายเพียงไม่กี่คลิก
สำหรับการซื้อประกันรถยนต์ EV กับ Pocket by LMG นั้น นอกจากเบี้ยประกันราคาไม่สูงแล้ว ยังได้รับการคุ้มครองอย่างครอบคลุมและคุ้มค่าด้วย อีกทั้งวิธีการซื้อประกันรถยนต์ก็ง่ายแสนง่าย ผ่านทางออนไลน์ที่ www.pocketbylmg.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านประกันของเราจะติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด พร้อมช่วยเลือกแผนประกันรถยนต์ EV ที่เหมาะสมในราคาที่คุ้มค่าให้กับคุณด้วย หรือสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 02-302-7788
