ก่อนเริ่มขับขี่รถยนต์หรือจักรยานยนต์ สิ่งแรกที่ต้องมีก็คือ ใบขับขี่ หรือใบอนุญาตให้ขับขี่รถยนต์ตามกฎหมาย โดยในการทำใบขับขี่ใหม่กับทางกรมขนส่งทางบกนั้น ผู้เข้าสอบจำเป็นต้องผ่านการทดสอบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ จึงได้รับใบขับขี่อย่างถูกต้อง
ในบทความนี้ Pocket จะมาแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบใบขับขี่ 2568 ตั้งแต่คุณสมบัติ ขั้นตอนการทำใบขับขี่ รวมถึงแนะนำแอปติวสอบใบขับขี่ที่จะช่วยให้ทำคะแนนสอบใบขับขี่ได้ดีขึ้น พร้อมแนะนำการทำประกันรถยนต์หลังจากที่สอบได้ใบขับขี่แล้ว

คุณสมบัติของผู้ที่สามารถทำใบขับขี่ 2568
ก่อนจะไปดูว่าการสอบใบขับขี่ 2568 ต้องทำอย่างไร มาสำรวจกันก่อนว่าคุณสมบัติตามที่กำหนดนั้นมีอะไรบ้าง
- ผู้ทำใบขับขี่รถยนต์ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
- ผู้ทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี
- ไม่เป็นผู้มีร่างกายพิการจนเป็นที่เห็นได้ว่าไม่สามารถขับรถได้
- ไม่มีโรคประจำตัวที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่าอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ
- ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน
- ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกยึดหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ
ในการทำใบขับขี่ใหม่ สามารถเลือกได้ 2 วิธี คือ
1. โรงเรียนสอนขับรถ
สามารถฝึกหัดขับรถยนต์กับผู้ฝึกสอนประจำโรงเรียนสอบขับรถ โดยสามารถเรียนรู้ทั้งภาคปฏิบัติ ภาคทฤษฎี และเตรียมตัวสอบใบขับขี่กับโรงเรียนได้เลย จากนั้นจะได้รับใบรับรองเพื่อนำไปยื่นทำใบขับขี่กับสำนักงานขนส่งทางบก อย่างไรก็ตาม ควรเลือกโรงเรียนสอนขับรถที่ผ่านการรับรองจากกรมขนส่งทางบก เพื่อการเรียนการสอนที่เป็นไปตามมาตรฐาน
โดย ปัจจุบันมีโรงเรียนสอนขับรถมากมายที่เปิดให้บริการ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการทำใบขับขี่ในปี 2568 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ควรตรวจค่าเรียน ตารางเรียน และความน่าเชื่อถือของแต่ละสถาบันก่อนตัดสินใจ
2. ฝึกหัดขับรถด้วยตัวเอง
ในอีกทางเลือกหนึ่ง คือ การฝึกหัดขับรถด้วยตัวเอง ก่อนที่จะเข้าอบรม ทดสอบภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติที่สำนักงานขนส่งทางบกโดยตรง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเมื่อเทียบกับโรงเรียนสอนขับรถ ทั้งนี้ แนะนำให้ฝึกหัดขับโดยมีผู้ที่ขับรถเป็นคอยดูแลแนะนำ และควรเลือกพื้นที่โล่ง ไม่มีการจราจรหรือสิ่งกีดขวาง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุขณะฝึกหัดขับ
ขั้นตอนการสอบใบขับขี่ 2568
สำหรับผู้ที่ฝึกขับรถด้วยตนเองและต้องการสอบใบขับขี่ในปีนี้ Pocket ได้สรุปขั้นตอนการปฏิบัติมาแบ่งปันในบทความนี้ มาดูกันว่าต้องเริ่มจากตรงไหน
1. จองคิวสอบใบขับขี่ผ่านแอปฯ DLT Smart Queue
ปัจจุบัน กรมขนส่งฯ นั้นมีแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ให้ดาวน์โหลดและลงทะเบียน เพื่อจองคิวสอบใบขับขี่ได้สะดวก โดยไม่จำเป็นต้องไปที่กรมขนส่งล่วงหน้า โดยหลังสมัครเข้าใช้งาน ให้เปิดแอปในหน้าแรก > เลือกสำนักงานขนส่งที่ต้องการ และเข้าสู่เมนู “งานใบอนุญาต” > “งานใบอนุญาตส่วนบุคคล” > “ทำใบอนุญาตขับขี่ใหม่” จากนั้นให้เลือกวันและเวลาที่สะดวกเข้าสอบก็เป็นอันเสร็จสิ้น
2. เตรียมเอกสารที่จำเป็น
เอกสารจำเป็นที่ใช้สำหรับทำใบขับขี่นั้นมี 2 อย่าง ได้แก่
- บัตรประชาชน (ตัวจริง)
- ใบรับรองแพทย์สำหรับทำใบขับขี่ (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
3. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
เมื่อไปถึงกรมขนส่ง อันดับแรกต้องทำการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ได้แก่
- ทดสอบสายตาบอดสี
- ทดสอบสายตาทางลึก
- ทดสอบสายตาทางกว้าง
- ทดสอบปฏิกิริยาทางเท้า
4. เข้ารับการอบรม 5 ชั่วโมง
จากนั้นต้องเข้ารับการอบรมเป็นเวลาทั้งหมด 5 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเช้า (9.30 – 12.00 น.) และช่วงบ่าย (13.00 – 15.30 น.) จะมีการบันทึกเวลาเข้า-ออกโดยใช้ชิปในบัตรประชาชน ซึ่งเนื้อหาประกอบด้วย
- กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่รถยนต์
- จิตสำนึกและมารยาทในการขับรถ
- ข้อปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน การให้ความช่วยเหลือ และการปฐมพยาบาล
5. ทดสอบภาคทฤษฎี 50 ข้อ
หลังอบรมครบตามกำหนด ต่อมาคือการเข้าทดสอบข้อเขียนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Exam) ซึ่งเป็นข้อสอบปรนัย (ข้อกา) ทั้งหมด 50 ข้อ โดยต้องผ่านเกณฑ์ 90% หรือได้คะแนนสอบใบขับขี่อย่างน้อย 45 คะแนน
6. ทดสอบภาคปฏิบัติ
ต่อมา ในการสอบใบขับขี่รถยนต์ภาคปฏิบัติ ต้องเข้ารับการทดสอบขับรถตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยมี 3 ท่าหลัก คือ
- ท่าขับรถเดินหน้าและถอยหลังในทางตรง
- ท่าขับรถเดินหน้าและหยุดรถเทียบทางเท้า
- ท่าขับรถถอยหลังเข้าจอดและออกจากช่องว่างด้านซ้าย (ถอยรถเข้าซอง)
7. ชำระเงินและถ่ายรูปเพื่อรับบัตร
เมื่อผ่านการสอบทุกขั้นตอนแล้ว ต่อมาคือการชำระเงินและถ่ายรูปเพื่อทำใบขับขี่ โดยมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด ดังนี้
- ค่าทำใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 200 บาท
- ค่าทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 100 บาท
- ค่าคำขอ 5 บาท
ทั้งนี้ ควรคำนึงเอาไว้ว่า การทำใบขับขี่ใหม่ที่สำนักงานกรมขนส่งทางบกจะใช้เวลา 2 วัน โดยวันแรกเป็นการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย อบรม และสอบภาคทฤษฎี ส่วนวันที่สองจะเป็นการสอบภาคปฏิบัติและทำใบขับขี่ สุดท้ายนี้ ใบขับขี่ใหม่ที่ได้รับจะเป็นใบขับขี่ชั่วคราว อายุ 2 ปี หลังจากถือครองครบ สามารถเปลี่ยนเป็นแบบ 5 ปีได้
แนะนำแอปติวสอบใบขับขี่ 2568
ใครที่ต้องการศึกษาและฝึกทดสอบทำใบขับขี่ด้วยตัวเอง สามารถใช้แอปต่างๆ เพื่อเตรียมตัวก่อนสอบจริงได้ โดยมีแอปพลิเคชันแนะนำ ดังนี้
DLT Smart Service
แอปทางการจากกรมการขนส่งทางบก ที่ออกแบบมาเพื่อประชาสัมพันธ์ ให้ข้อมูลบริการและข่าวสารจากกรมฯ โดยมีทั้งแนวข้อสอบใบขับขี่ เนื้อหาเกี่ยวกับกฎหมายจราจรและความรู้ทั่วไปแบบครบถ้วน รวมถึงการทดสอบการทำข้อสอบใบอนุญาตขับรถ (Pre-Test) ทั้งนี้สามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะระบบ iOS เท่านั้น
สอบใบขับขี่ - Driving Licence
แอปพลิเคชันที่มีทั้งข้อสอบรถยนต์และจักรยานยนต์ พร้อมคลิปแสดงการสอบภาคปฏิบัติ มีเนื้อหาให้ศึกษาทั้งหมด 5 หมวด ได้แก่ กฎหมายว่าด้วยรถยนต์และจักรยานยนต์ จราจรทางบก เครื่องหมายจราจร มารยาทและจิตสำนึก และหมวดการบำรุงรักษารถยนต์ โดยสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และ Android
ทายป้ายจราจร
แอปสำหรับฝึกทำข้อสอบในหมวดป้ายและสัญญาณจราจรโดยเฉพาะ โดยมีการสุ่มป้ายจราจรเพื่อให้ท้ายชื่อ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับป้ายจราจรต่างๆ สามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะระบบ iOS
การเตรียมตัวสอบใบขับขี่นั้นต้องอาศัยทั้งความรู้และการฝึกฝน ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจทั้งภาคทฤษฎีและฝึกฝนภาคปฏิบัติ เพื่อสร้างความมั่นใจในการสอบ นอกจากนี้ การเรียนรู้กฎจราจรและป้ายต่างๆ ไม่เพียงช่วยให้สอบผ่านเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยบนท้องถนนจริงอีกด้วย เมื่อสอบผ่านและได้ใบขับขี่แล้ว สิ่งสำคัญลำดับต่อไปที่ควรพิจารณาคือการซื้อประกันรถยนต์ที่เหมาะสม เพื่อความสบายใจตลอดการขับขี่
หากคุณกำลังมองหาประกันภัยรถยนต์สำหรับรถคันแรก หรือประกันรถยนต์ชั้น 1 สำหรับรถมือสอง Pocket ยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำแผนประกันที่ตอบโจทย์ เพื่อให้การใช้รถใช้ถนนเป็นไปอย่างอุ่นใจ โดยสามารถดูแผนประกันรถยนต์ออนไลน์ เปรียบเทียบประกันรถยนต์ และเช็คเบี้ยได้ง่ายๆ ที่ www.pocketbylmg.com/ หรือโทร. 02-302-7788 เพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ พร้อมรับแผนประกันที่ตอบโจทย์ในราคาที่คุ้มค่า