เมื่อถึงเวลาใบขับขี่ใกล้หมดอายุ หลายคนอาจมีความกังวลและอยากเร่งรีบต่อใบขับขี่ แต่บ่อยครั้งที่สำนักงานขนส่งนั้นมีคิวล่วงหน้าหลายสิบคิว ต้องต่อคิวรอตลอดทั้งวัน หรืออาจจะต้องเปลี่ยนไปต่อใบขับขี่ในวันหลัง เนื่องจากคิวเต็ม ดังนั้นการ จองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ จึงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เพราะช่วยประหยัดเวลา สะดวกสบาย สามารถเลือกวันและเวลาที่เหมาะสมได้ด้วยตัวเอง
สำหรับใครที่กำลังมีแผนต่อใบขับขี่ บทความนี้จะมาแนะนำทุกขั้นตอนจองคิวต่อใบขับขี่แบบละเอียดผ่านบริการ DLT Smart Queue ของกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้การต่อใบขับขี่เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น อันดับแรก เรามาทำความเข้าใจความสำคัญของการต่อใบขับขี่รถยนต์กันก่อน
ความสำคัญของการต่อใบขับขี่
เพราะการต่อใบขับขี่ไม่ใช่แค่การปฏิบัติตามข้อกฎหมายเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญในหลายมิติ ดังนี้
1. การปฏิบัติตามกฎหมายและหลีกเลี่ยงบทลงโทษ
ใบขับขี่เป็นเอกสารที่ยืนยันว่าบุคคลนั้นได้รับอนุญาตให้ขับขี่ยานพาหนะบนถนนสาธารณะได้อย่างถูกต้องตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 ดังนั้น การขับรถโดยไม่มีใบขับขี่หรือใบขับขี่หมดอายุถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจและพบว่าใบขับขี่หมดอายุหรือไม่มีใบขับขี่ ผู้ขับขี่จะถูกปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
2. รักษาสิทธิประโยชน์และการคุ้มครองจากประกันภัย
ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หากใบขับขี่หมดอายุ อาจส่งผลต่อการเคลมประกันรถยนต์ โดยบริษัทประกันภัยมีสิทธิ์ปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือประกันประเภทอื่นๆ ก็ตาม
3. ยืนยันความพร้อมในการขับขี่ ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน
ทุกคนคงทราบกันดีว่าในขั้นตอนการต่อใบขับขี่ จะมีการทดสอบสมรรถภาพร่างกายพื้นฐาน เช่น การมองเห็นสี การมองระยะลึก การมองทางกว้าง และปฏิกิริยาการเหยียบเบรก รวมถึงการฝึกอบรมตามกำหนด ซึ่งการทดสอบเหล่านี้ช่วยให้กรมขนส่งและตัวผู้ขับขี่มั่นใจว่า ผู้ขับขี่ยังคงมีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการใช้งานรถยนต์บนท้องถนน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
วิธีการจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ 2568
ปัจจุบัน กรมการขนส่งทางบกได้พัฒนาช่องทางการจองคิวต่อใบขับขี่รถยนต์ผ่านระบบ DLT Smart Queue ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถจองคิวต่อใบขับขี่ได้สะดวก โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่องทางหลัก ได้แก่
1. ช่องการจองคิวต่อใบขับขี่ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue - สามารถดาวน์โหลดฟรีได้ที่ Google Play Store และ App Store
2. ช่องการจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์บนเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th/ - โดยสามารถเข้าใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นบนคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อื่นๆ
ขั้นตอนการจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์
ขั้นตอนที่ 1: ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ
- เข้าสู่เว็บไซต์ gecc.dlt.go.th หรือเปิดแอป DLT Smart Queue
- สำหรับผู้ขับขี่ชาวไทย สามารถเลือก “เข้าสู่ระบบด้วย ThaID” ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนทางดิจิทัล เมื่อเข้าใช้บริการทางภาครัฐอย่างการต่อใบขับขี่
- สำหรับผู้ขับขี่ชาวต่างชาติ สามารถสมัครลงทะเบียนด้วยเลข Passport และกรอกข้อมูลต่างๆ
ขั้นตอนที่ 2: เลือกสำนักงานและประเภทบริการ
- ในหน้าแรก ให้เลือกสำนักงานขนส่งในสาขาที่ต้องการหรือสาขาที่สะดวกที่สุด
- ต่อมาในเมนู “เลือกประเภทบริการ” ให้เลือก “งานใบอนุญาต”
- ในเมนู “เลือกประเภทใบอนุญาตขับรถ” ให้เลือก “ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล”
- ในเมนู “เลือกประเภทเข้ารับบริการ” ให้เลือก “ต่ออายุใบอนุญาตขับรถ”
- เมื่อต้องเลือกประเภทยานพาหนะ สามารถเลือกได้ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือทั้งสองอย่างพร้อมกัน
ขั้นตอนที่ 3: กรอกข้อมูลใบขับขี่
- กรอกข้อมูลวันหมดอายุใบขับขี่ให้ครบถ้วน ทั้งวัน-เดือน-ปี
- ในกรณีที่ใบขับขี่หาย หรือไม่ทราบวันหมดอายุ สามารถติ๊กถูกได้ที่ช่อง “ใบอนุญาตขับรถสูญหาย / ไม่ทราบวันหมดอายุ / ใช้หนังสือรับรองการอบรม”
- เลือกประเภทงานการต่ออายุที่เหมาะสม เช่น
- ใบอนุญาตส่วนบุคคล: การขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ จาก 5 ปี เป็น 5 ปี สิ้นอายุไม่เกิน 1 ปี
- ใบอนุญาตส่วนบุคคล: การขอเปลี่ยนชนิดใบอนุญาตขับรถ จาก 2 ปี เป็น 5 ปี สิ้นอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป
ขั้นตอนที่ 4: เลือกวันและเวลา
- ระบบจะแสดงปฏิทินแจ้งวันที่มีคิวว่างสำหรับต่อใบขับขี่ โดยจะเลือกได้เฉพาะวันที่เป็นตัวหนังสือสีเขียว ซึ่งเป็น “วันจำนวนคิวว่างในการใช้บริการ” หากไม่มี ให้ยกเลิกและจองคิวต่อใบขับขี่ใหม่อีกครั้งตามขั้นตอนข้างต้น โดยระบบจะมีการรีเซตคิวว่างในทุกๆ วัน
- ยืนยันการจอง เพื่อรับ QR Code ข้อมูลวัน-เวลานัด และรายละเอียดเอกสารต่างๆ ที่ต้องเตรียม
ขั้นตอนที่ 5: บันทึกข้อมูลการจองและต่อใบขับขี่
- สามารถดูข้อมูลการจองพร้อม QR Code ได้ที่หน้าเมนู “คิวของฉัน”
- สามารถเดินทางไปยังสำนักงานขนส่ง ณ สาขาที่จองคิวไว้ในวันเวลาที่นัด
- แสดงหน้าคิวและ QR Code ต่อเจ้าหน้าที่ได้ทันทีเมื่อต่อใบขับขี่ หรือแคปหน้าจอไว้เพื่อความสะดวก
เอกสารที่ต้องเตรียมในวันต่อใบขับขี่
ควรเตรียมเอกสารตามคำแนะนำของระบบ DLT Smart Queue ให้ครบถ้วนก่อนต่อใบขับขี่ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว โดยเอกสารทั่วไปที่ต้องเตรียมให้พร้อมมีดังนี้
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบขับขี่เดิม (ถ้ามี)
- ใบรับรองแพทย์ ออกไม่เกิน 1 เดือน (กรณีหมดอายุเกิน 1 ปี)
- หลักฐานการอบรมออนไลน์ผ่านระบบ e-Learning (หากทำการอบรมล่วงหน้า)
ค่าธรรมเนียมการต่อใบขับขี่
ค่าธรรมเนียมการต่อใบขับขี่จะแตกต่างกันไปตามประเภทของใบขับขี่ โดยแบ่งตามประเภทรถ คือ รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ โดยมีค่าธรรมเนียมสำหรับต่ออายุ ดังนี้
- ใบขับขี่รถยนต์ - 505 บาท (ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขับรถยนต์: 500 บาท และค่าคำขอ 5 บาท)
- ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ - 255 บาท (ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์: 250 บาท และค่าคำขอ: 5 บาท)
เคล็ดลับการจองคิวต่อใบขับขี่ได้เร็วและไม่ต้องรอนาน
1. เข้าแอปหรือเว็บไซต์ระหว่างเวลา 06:00 - 07:00 น. เพราะเป็นช่วงที่ระบบมักอัปเดตคิวใหม่
2. เลือกสำนักงานขนส่งนอกเมืองหรือจังหวัดรอบข้างที่มีคนใช้บริการน้อยกว่า เช่น สมุทรสงคราม นนทบุรี หรือฉะเชิงเทรา
3. หากคิวเต็มหมด สามารถติดต่อสำนักงานขนส่งในวันเวลาทำการ (จ.- ศ. เวลา 8:00-16:30) โดยตรงเพื่อตรวจสอบโควตาคิว Walk-in ในวันนั้นๆ
การจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์เป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลา โดยสามารถเลือกวันเวลาและสำนักงานขนส่งที่เหมาะสมได้ด้วยตัวเอง การต่อใบขับขี่ให้ทันเวลาไม่เพียงช่วยหลีกเลี่ยงการผิดกฎหมายเท่านั้น แต่ยังรักษาสิทธิ์ในการได้รับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์อีกด้วย สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนต่อใบขับขี่ แนะนำให้เตรียมเอกสารล่วงหน้า เลือกจองคิวต่อใบขับขี่วัน-เวลาและสำนักงานที่สะดวก และทำการอบรมออนไลน์ผ่าน DLT e-Learning ล่วงหน้าหากจำเป็น เพื่อให้กระบวนการต่อใบขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นและไม่เสียเวลา
หลังจากที่ต่อใบขับขี่เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมตรวจสอบและซื้อประกันรถยนต์ที่เหมาะสมด้วย เพื่อความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนนไปอีกขั้น
Pocket by LMG ขอนำเสนอแผนประกันรถยนต์ออนไลน์ในราคาดี คุ้มค่า ซื้อง่ายและรวดเร็ว ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3+ เรายินดีให้คำปรึกษาและแนะนำแผนประกันที่เหมาะสม เพื่อให้การใช้รถใช้ถนนเป็นไปอย่างอุ่นใจ สามารถดูแผนประกันรถยนต์ออนไลน์ พร้อมเปรียบเทียบประกันรถยนต์ และเช็คเบี้ยได้ง่ายๆ ที่ www.pocketbylmg.com หรือโทร. 02-302-7788 เพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ พร้อมรับแผนประกันที่ตอบโจทย์ในราคาที่คุ้มค่า
