ขับแท็กซี่ผ่านแอปเริ่มต้นยังไง ประกันรถยนต์คุ้มครองมั้ย?

ปัจจุบันนี้การหารายได้เสริมจากการขับแท็กซี่ผ่านแอป (Freelance Taxi) ได้กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับหลายคน ไม่ว่าจะเป็นการขับ Grab, Bolt, InDrive หรือแอปอื่นๆ ที่ให้บริการขนส่งผู้โดยสาร เนื่องจากเป็นอาชีพที่มีความยืดหยุ่น สามารถทำงานได้ตามเวลาที่สะดวก และสร้างรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำได้ดี อย่างไรก็ตาม มีคำถามหนึ่งที่หลายคนสงสัย คือ “ถ้านำรถยนต์ส่วนบุคคลมาขับรถรับจ้างผ่านแอปและเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา แล้วประกันรถยนต์จะให้ความคุ้มครองเราหรือไม่?”

ขับแท็กซี่ผ่านแอปเริ่มต้นยังไง ประกันรถยนต์คุ้มครองมั้ย

ทำความเข้าใจข้อแตกต่าง "รถป้ายขาว" และ "รถป้ายเหลือง"

ก่อนที่จะเข้าสู่ประเด็นของความคุ้มครองประกันรถยนต์ อันดับแรก ต้องทำความเข้าใจเรื่องประเภทรถยนต์กันก่อน เพราะสีป้ายทะเบียนจะบอกถึงวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันตามกฎหมาย โดยแบ่งเป็นรถป้ายขาวและป้ายเหลือง ดังนี้

รถป้ายขาว (รถยนต์ส่วนบุคคล)

คือ รถยนต์ที่มีป้ายทะเบียนพื้นสีขาว ตัวอักษรสีดำ และจดทะเบียนเพื่อใช้งานส่วนตัวเท่านั้น จึงไม่สามารถใช้เพื่อการรับจ้างหรือพาณิชย์ได้ ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง รถกระบะ รถ SUV หรืออื่นๆ

รถป้ายเหลือง (รถรับจ้างสาธารณะ)

คือ รถยนต์ที่มีป้ายทะเบียนพื้นสีเหลือง ตัวอักษรสีดำ จดทะเบียนเพื่อใช้รับจ้างบรรทุกผู้โดยสารหรือสินค้า ซึ่งเป็นทะเบียนรถยนต์ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก พบเห็นได้ในรถแท็กซี่ รถรับจ้างทั่วไป รถเมล์ และรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

รถป้ายขาว ขับแท็กซี่ผ่านแอปผิดกฎหมายหรือไม่?

พอทราบแล้วว่าจุดประสงค์การใช้งานของป้ายทะเบียนรถยนต์ทั้งสองประเภทต่างกันอย่างไร ข้อสงสัยต่อมาก็คือ การนำรถป้ายขาวมาใช้ขับรถรับจ้างผ่านแอปผิดกฎหมายหรือไม่?  คำตอบคือ ผิดกฎหมาย หากไม่ได้ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง 

เดิมทีการใช้รถส่วนตัว (รถป้ายขาว) ไปขับรถรับจ้างถือเป็นการใช้งานผิดประเภท ทั้งนี้ ในช่วงปี พ.ศ. 2564 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติ “รถยนต์ส่วนบุคคลวิ่งรับจ้างผ่านแอปฯ ถูกกฎหมาย” ต่อมาในช่วงกลางปี พ.ศ. 2565 กรมการขนส่งทางบกได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า รถยนต์ที่นำมาใช้เพื่อขับรถรับจ้างผ่านแอปต่างๆ ต้องจดทะเบียนผ่านแอปเป็น “รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์” ซึ่งไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรถเป็นป้ายทะเบียนสีเหลือง แต่จะต้องติดสติกเกอร์หน้า-หลังรถอย่างชัดเจน โดยแอปพลิเคชันที่กรมการขนส่งทางบกรับรองแล้ว มีจำนวน 8 ราย ได้แก่

  • ฮัลโหลภูเก็ต เซอร์วิส (Hello Phuket Service)
  • บอนกุ (Bonku)
  • เอเชีย แค็บ (Asia Cab)
  • โรบินฮู้ด (Robinhood)
  • แกร็บ (Grab)
  • แอร์เอเชีย ซุปเปอร์แอป (Airasia Superapp)
  • โบลท์ (Bolt)
  • อินไดรฟ์ (InDrive)

จดทะเบียนรถยนต์รับจ้างผ่านแอปอย่างไร?

แม้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นป้ายทะเบียนสีเหลือง แต่ผู้ขับขี่จำเป็นต้องทำตามขั้นตอนต่างๆ ตามที่กฎกระทรวงกำหนด โดยขั้นตอนอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละแอป ซึ่งมีขั้นตอนเบื้องต้น ได้แก่

1. ทำใบขับขี่สาธารณะ - อันดับแรกผู้ขับขี่ต้องมีใบขับขี่สาธารณะ โดยสามารถทำตามขั้นตอนของกรมการขนส่งทางบก คือ การอบรม สอบข้อเขียนและข้อปฏิบัติ ตรวจประวัติ และยื่นขอรับใบอนุญาต 

2. ขอความเห็นชอบ - เตรียมเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปยื่นขอความเห็นชอบกับสำนักงานขนส่งหลักของพื้นที่ที่ต้องการจดทะเบียน

3. นำรถยนต์เข้าตรวจสภาพ - หลังจากเซ็นหนังสือขอความเห็นชอบ ให้นำเอกสารส่งตรวจสภาพรถไปยื่นตรวจสภาพรถตามจุดที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด

4. ยื่นจดทะเบียนรถยนต์รับจ้างผ่านแอป - ดำเนินการกรอกแบบฟอร์มและยื่นเอกสารกับแอปที่ต้องการลงทะเบียน 

5. รับสติกเกอร์และอัปโหลดข้อมูล - เมื่อได้รับการอนุมัติ ให้นำเอกสารกลับไปยื่นที่ส่วนการตรวจสภาพรถ พร้อมชำระค่าธรรมเนียมและรับสติกเกอร์รับรองการเป็นรถรับจ้างสาธารณะ

การขับแท็กซี่ผ่านแอปเป็นอาชีพที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามขั้นตอน เพื่อหลีกเลี่ยงผลทางกฎหมายที่อาจตามมา รวมถึงผลต่อความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ด้วย

ขับแท็กซี่ผ่านแอปประกันคุ้มครองมั้ย?

หากนำรถยนต์ส่วนบุคคลไปใช้งานเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้จดทะเบียนให้ถูกต้อง และเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา บริษัทประกันภัยจะยังมอบความคุ้มครองหรือไม่นั้น สามารถแบ่งออกได้เป็นประกันภาคบังคับและประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ดังนี้

1. ความคุ้มครองประกันภาคบังคับ (พ.ร.บ.)

หากเกิดอุบัติเหตุ พ.ร.บ. รถยนต์จะยังคงให้ความคุ้มครองตามปกติ โดยจะคุ้มครองในกรณีดังต่อไปนี้

  • ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้บาดเจ็บ
  • ค่าชดเชยรายวัน
  • การสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพถาวร
  • กรณีเสียชีวิต

แต่จะไม่คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน เช่น ค่าซ่อมรถ อุปกรณ์ตกแต่ง หรือความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลที่สาม โดยผู้ขับขี่จะเป็นผู้รับผิดชอบเองทั้งหมด

2. ความคุ้มครองประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ (ชั้น 1, 2+, 3+)

สำหรับประกันภาคสมัครใจ ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือประกันรถยนต์ชั้น 3+ หากนำรถป้ายทะเบียนขาวไปใช้งานผิดประเภท กรณีนี้บริษัทประกันภัยมีสิทธิ์ในการปฏิเสธการคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของผู้เอาประกันภัย ค่าซ่อมรถ รวมถึงค่าทดแทนกรณีรถสูญหาย

อย่างไรก็ตาม บริษัทประกันภัยจะยังให้ความคุ้มครองต่อคู่กรณีตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ เช่น ความเสียหายต่อชีวิตและร่างกายของบุคคลภายนอก ความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้อื่น และค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้โดยสาร โดยที่ผู้เอาประกันจะต้องชำระค่าความเสียหายส่วนแรก (Excess) เป็นจำนวน 2,000 บาท และชำระเพิ่มเติมอีก 2,000 บาท เนื่องจากใช้รถยนต์ผิดประเภท 

จะเห็นได้ว่าการซื้อประกันรถยนต์เพื่อนำมาขับรถแท็กซี่ผ่านแอปนั้นครอบคลุมเพียงค่าเสียหายต่อบุคคลภายนอกเท่านั้น ไม่ได้ครอบคลุมผู้เอาประกัน ดังนั้น หากต้องการนำรถส่วนตัวมาขับรถรับจ้างเพื่อหารายได้เสริม ผู้ขับขี่ควรเลือกประกันภัยรถยนต์ประเภทที่เหมาะสมกับการใช้งานอย่าง “ประกันภัยรถยนต์สาธารณะ” ตามกฎหมายกำหนด แม้จะมีเบี้ยประกันรถยนต์ที่สูงกว่า เมื่อเทียบกับประกันรถยนต์ส่วนบุคคล แต่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและสร้างความสบายใจได้มากกว่า

สรุป การจดทะเบียนรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อขับแท็กซี่ผ่านแอป นั้นเป็นขั้นตอนตามกฎหมายที่ควรปฏิบัติตาม หากต้องการขับขี่รถรับจ้างอย่างไร้กังวล และควรเลือกทำประกันประเภทที่เหมาะสม เพื่อรับความคุ้มครองที่ครบถ้วนและความสงบใจในการทำงาน ประกอบกับเป็นการป้องกันความเสี่ยงทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะคุ้มค่ากว่าการรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดด้วยตัวเอง

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุม Pocket by LMG มีแผนประกันรถยนต์ออนไลน์ในราคาดี คุ้มค่า ซื้อง่ายและรวดเร็ว ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3+ เรายินดีให้คำปรึกษาและแนะนำแผนประกันที่เหมาะสม เพื่อให้การใช้รถใช้ถนนเป็นไปอย่างอุ่นใจ สามารถดูแผนประกันรถยนต์ออนไลน์ พร้อมเปรียบเทียบประกันรถยนต์ และเช็คเบี้ยได้ง่ายๆ ที่ www.pocketbylmg.com หรือโทร. 02-302-7788 เพื่อปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ พร้อมรับแผนประกันที่ตอบโจทย์ในราคาที่คุ้มค่า

Want us to call you?